<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักเทรด Altcoin เริ่มเครียด หลังมูลค่าตลาดลดลงกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ไปเพิ่มให้กับของ Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Bitcoin นั้นยังคงฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจ หลังร่วงลงจากจุดสูงสุดของปีนี้ที่ระดับ 14,100 ดอลลาร์ แต่สถานการณ์ทางด้านหรียญ Altcoin นั้นกลับเลวร้ายลงเรื่อย ๆ และมูลค่าตลาดโดยรวมก็ได้ร่วงลดลงไปอยู่ที่ระดับ 3.9 แสนล้านดอลลาร์แล้วในขณะนี้

ราคา Bitcoin พุ่งแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ก่อนหน้านี้สยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่า ราคา Bitcoin นั้นได้พุ่งทะลุ 14,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นจุดสูงสุดของปี 2019-2020

แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้ขายจะไม่ยอมให้ราคา Bitcoin มีการซื้อขายอยู่ที่ระดับนี้นานนัก และในที่สุดราคาก็ค่อย ๆ ร่วงลดลง โดยเมื่อวานนี้ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงจากระดับ 13,800 ดอลลาร์แตะจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 13,250 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

แต่ในภายหลังราคาก็ได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาราวกับนกฟีนิกซ์ และสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 13,500 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง

เหรียญ Altcoin ร่วงหนัก มูลค่าตลาดลดลงกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์

ราคาเหรียญ Altcoin ส่วนใหญ่นั้นร่วงลดลงอย่างรุนแรง ในขณะที่ราคา Bitcoin กลับเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของ BTC เพิ่มขึ้นกว่า 6% ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยในขณะที่เขียนรายงานอยู่นี้ส่วนแบ่งตลาดของ Bitcoin อยู่ที่ระดับ 64%

ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 1.3% ในวันนี้ แต่เหรียญ altcoins ส่วนใหญ่นั้นกลับมีมูลค่าลดลงอย่างมาก โดยเหรียญคริปโตเบอร์สองของโลกอย่าง Ethereum สูญเสียไปเกือบ 4% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและมีการซื้อขายกันอยู่ที่ 378 ดอลลาร์, Ripple (-3%) ร่วงลดลงอยู่ที่ระดับ 0.23 ดอลลาร์ ตามมาด้วย Bitcoin Cash (-8%), Binance Coin (-7.6%), Chainlink (-10%), Polkadot (-5.4%), Cardano (-8%) และ Litecoin (-5.5%)

เหรียญ DeFi ส่วนใหญ่ก็มีมูลค่าลดลงเช่นเดียวกัน นำมาโดยโทเค็น The Reserve Rights ที่ร่วงลดลงกว่า -15%, SushiSwap (-14%), Compound (-13%), Aave (-13%), Loopring (-11.8%), Synthetix Network Token (-11.6%), Energy Web Token (-11.5%)

โดยรวมแล้วตลาดคริปโตทั้งหมดมีมูลค่าลดลงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งวันและ 18,000 ล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ตามวันพรุ่งนี้ยังมีเหตุการณ์เลือกตั้งของประธานาธิบดีสหรัฐ ที่นักเทรดหลายคนเชื่อว่ามันอาจเป็นจุดเปลี่ยนให้กับตลาดคริปโตในเชิงบวก ซึ่งเราก็คงต้องรอดูกันไปว่าตลาดนั้นจะสนองอย่างไรกับการเลือกตั้งในครั้งนี้