<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ค่าความยากในการขุด Bitcoin ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้หมายถึงอะไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อัตราค่าความยากในการขุด Bitcoin หรือค่าความยากที่เอาไว้สร้างความท้าทายให้กับนักขุดในเครือข่ายนั้นได้เพิ่มขึ้น 1.05% โดยไปแตะ 20.82 ล้านล้านแล้ว อ้างอิงข้อมูลจาก BTC.com

สิ่งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงค่าความยากในเครือข่ายที่ส่งผลด้านบวก โดยเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมานั้น ค่าความยากในการขุด Bitcoin ได้พุ่งไปถึง 10.79% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่เยอะที่สุดหากนับมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา

ส่วนการปรับค่าความยากครั้งต่อไปนั้นคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ และมันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มข้นอีกด้วย แต่หลายสิ่งหลายอย่างนั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงไปอีก ซึ่งหลัก ๆ นั้นก็ขึ้นอยู่กับตลาดด้วย

การขุด Bitcoin นั้นไม่เคยยากเท่านี้มาก่อน

หลังจากที่ค่าแรงขุดดังกล่าวนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้ เป็นที่คาดการณ์ว่ามันจะเป็นการยากในการขุด Bitcoin ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์เลยก็ได้ สำหรับในอีก 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ นั่นหมายความว่านักขุดนั้นจะต้องหาเครื่องขุดระดับเทพที่พวกเขาจะสามารถหามาได้ เพื่อที่จะยังสามารถขุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งค่าความยากของมันนั้นได้เพิ่มขึ้นถึง 37.5% หากนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงหลังการ halving

หากลองดูจากเวลาที่นักขุดใช้เพื่อขุดเหรียญใหม่ ๆ ออกมานั้น เราจะได้เห็นการปรับค่าความยากในการขุดที่ทุก ๆ 2,016 บล็อก

เมื่อค่า hashrate หรือค่าแรงขุดทั้งหมดในเครือข่ายนั้นได้พุ่งไปแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ 155 TH/s เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา สิ่งนี้สามารถบ่งบอกได้ว่านักขุดนั้นกำลังแห่กันเข้ามาขุดเพิ่มขึ้นอย่างมาก สาเหตุหลัก ๆ เป็นเพราะว่าราคาของ Bitcoin ที่เพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง ซึ่งบ่งบอกว่าการขุดนั้นคุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไป ทำให้นักขุดเริ่มแห่กันเข้ามาขุดกันมากขึ้น

การมีนักขุดที่เพิ่มขึ้นในตลาดถือเป็นเรื่องดีต่อเครือข่าย Bitcoin เนื่องจากว่าเครือข่ายนั้นจะมีความปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือเหรียญอีกด้วย

รายได้จากการขุดลดลง แต่นักขุดก็ยังไม่ผวา

เมื่อตอนที่ราคา Bitcoin พุ่งไปแตะ 42,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรงเมื่อต้นปีนี้ ส่งผลทำให้หลาย ๆ คนนั้นแห่กันเข้ามาขุด BTC กันอย่างมาก และทำให้ความต้องการในตัวเครื่องขุด ASIC นั้นเพิ่มขึ้นด้วย โดยเราได้เห็นการสร้างขุดรุ่นใหม่ ๆ ที่นำหน้าตลาดไปหลายเครื่องแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จำนวน supply ที่ถูกผลิตออกมานั้นก็ยังไม่พอเพียงต่อนักขุดส่วนใหญ่นัก

เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา รายได้ของนักขุดนั้นได้พุ่งไปแตะ 45.1 ล้านดอลลาร์ต่อวัน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ร่วงลงมาเหลืออยูที่ 30.3 ล้านดอลลาร์ต่อวันในระยะเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ ซึ่งร่วงลงไปพร้อม ๆ กับราคาของ Bitcoin

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อค่าแรงขุดของ Bitcoin เลยแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้าม มันกลับเพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำ บ่งบอกว่าการลดลงของรายได้ของนักขุดแค่นี้ยังไม่มากพอ หรือไม่ก็นักขุดส่วนใหญ่นั้นเชื่อว่าราคา BTC มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตนั่นเอง