<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้ง Zipmex เผยถึงแผนการในการพัฒนาเหรียญ ZMT ให้ไปไกลถึงระดับโลก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จากกระแสความตื่นตัวในวงการคริปโตที่ผ่านมานั้นทำให้เกิดความสนใจในเหรียญสกุลดิจิทัลอื่น ๆ มากมายนอกเหนือจาก Bitcoin และ Ethereum ซึ่งหนึ่งในเหรียญที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ก็คือ Zipmex Token หรือ (ZMT)

ZMT หรือเหรียญจากกระดานเทรด Zipmex นั้นมีความน่าสนใจอย่างไร วันนี้ทาง Siam Blockchain จะพาไปพูดคุยเกี่ยวกับเจ้าของเหรียญดังกล่าวในบทความสัมภาษณ์พิเศษกับดร. เอกลาภ ยิ้มวิไล หรือคุณแบงค์ CEO แห่ง Zipmex นั่นเอง

Roadmap สู่การเป็นผู้นำด้านการเงินดิจิทัลแห่งยุค

ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักคร่าว ๆ กับ Zipmex Token หรือ (ZMT) ซึ่งเป็นโทเค็นที่อยู่บนระบบ ERC-20 โดยมีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 200 ล้านเหรียญ โดยคาดการณ์กำหนดการในปี 2021 นี้เหรียญ ZMT จะถูกปล่อยออกมาทั้งสิ้น 66 ล้านเหรียญ ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปศึกษา Whitepaper ได้ที่นี่

“เนื่องจากทาง Zipmex มีหลายผลิตภัณฑ์ในแพลตฟอร์ม ทั้ง Exchange, ZipUp และ Zipmex Token ซึ่งตัว Token นี้จะสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ บนแพลตฟอร์มได้ … เช่น การให้โบนัสที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับ ZipCrew และผลประโยชน์อื่นที่จะมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท” คุณแบงค์กล่าว

นอกจากนี้คุณแบงค์เสริมว่า Zipmex Token จะเกี่ยวข้องกับทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยในปีนี้มี 2-3 โปรเจกต์ที่กำลังดำจะเนินการไม่ว่าจะเป็น ZipPay ที่สามารถใช้แพลตฟอร์ม Zipmex ในการใช้จ่ายโดยใช้ Cryptocurrency หรือเหรียญ ZMT ซึ่งอาจจะได้ส่วนลด หรือผลตอบแทนเป็น Cash back 

อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่บริษัทกำลังศึกษาอยู่ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นภายในปลายปีนี้ เช่น ZipLend เป็นเรื่องของ Peer to peer lending ที่จะทำให้สามารถกู้สินทรัพย์ดิจิทัลได้ในเรทราคาที่ดีกว่า และ ล่าสุดโปรเจกต์ NFT (Non Fungible Token) ที่ได้ Teaser ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ซึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไรทางคุณแบงค์จะมีการอัปเดตให้ทราบกันอย่างแน่นอน

“ในขณะเดียวกันตัว Zipmex Token ที่เป็นเหมือนกับ Loyalty Token ลูกค้าที่ถืออยู่ก็จะได้สิทธิพิเศษหลายอย่างเพื่อเป็นการตอบแทน เช่น การส่งของขวัญวันเกิดให้, คะแนนพิเศษจากการ Refer เพื่อน หรือโบนัสใน ZipCrew” 

อาจได้เห็น Partnership กับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอนาคต

ทางทีมงานถามคุณแบงค์ว่าการจับมือ Partnership ร่วมงานกับ Major แล้ว ในอนาคตทาง Zipmex จะมีโปรเจกต์อื่นเพิ่มเติมที่บุคคลทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมได้อีกไหม ซึ่งคุณแบงค์ตอบอย่างมั่นใจว่า

“มีแน่นอนครับ ต้องติดตามกันต่อไปครับ จะมีมาเยอะขึ้นและแต่ละ Partnership ก็จะใหญ่ขึ้นครับ”

ซึ่งในอนาคตเราอาจได้เห็นโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่จากทาง Zipmex ที่ผลักดันการเงินดิจิทัลให้เข้าถึงบุคคลคนทั่วไปในยุคนี้ ดังตัวอย่างเช่นการเปิดชำระค่าบัตรชมภาพยนตร์ ด้วย Cryptocurrency ของเครือ Major เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ในขณะที่สถานการณ์ของเหรียญ ZMT ในปัจจุบันนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและสามารถใช้งานได้อย่างมากมาย โดยคุณแบงค์กล่าวเพิ่มเติมว่า

“เราต้องดู Performance ของเหรียญว่าทำไมคนถึงนิยมเข้ามา ส่วนมากคนนิยมเข้ามาเพราะ Use case ของเหรียญ และเราก็มี Campaign ออกมาตลอด เพื่อเป็นการ Reward ให้รางวัลแก่คนที่อยู่ใน Ecosystem ของเรา เพราะที่นี่เป็น Community ที่มาแชร์ความรู้กัน ลงทุนด้วยกัน เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางด้านการเงินให้กับทุกคน”

“ถ้าคุณประสบความสำเร็จ ได้กำไรคนเดียว ยังไงมันสู้กับการร่ำรวยด้วยกัน กับทุกคนในชุมชนไม่ได้หรอก ความสุขมันต้องแบ่งปัน ถึงจะเป็นความสุขที่แท้จริง”

จุดเริ่มต้นขนาดนี้ แล้วปลายทาง ZMT จะขนาดไหน

สุดท้ายแล้วคุณแบงค์ได้ฝากโปรเจกต์ถึงนักลงทุนว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ตอนนี้ยังอยู่แค่ในตลาดไทย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย แต่ก็ได้มีการคุยกับ Exchange อื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว

“ไม่ใช่แค่คนไทยประเทศเดียวที่จะสามารถเข้าถึงผลประโยชน์กับ Zipmex Token ตรงนี้ได้ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคก็สามารถทำได้และหลังจากนั้นก็ระดับโลก โดยคนทั้งโลกสามารถเข้าถึงได้ ถ้าไม่ได้ผ่าน Zipmex ก็ผ่าน Exchange ที่อื่น”

“ตอนนี้เพิ่งแค่เริ่มต้น มันไปถึงไกลขนาดนี้แล้ว ถ้ารวมกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกมันจะไปไกลถึงไหน? พร้อมกับ Product ที่เราเขียนใน Roadmap ยังเดินทางไม่เกิน 10% เลยครับ มันมีอะไรให้น่าตื่นเต้นที่เราจะออกมาอีกเยอะ” คุณแบงค์กล่าว

พร้อมกันนี้คุณแบงค์ยังได้ให้มุมมองเล็ก ๆ ถึงชุมชนคริปโตเคอร์เรนซีอีกว่า

“สิ่งที่เราต้องทำในฐานะคนที่เราอยู่ในวงการนะครับ คือเราต้องเปลี่ยนทัศนคติและมุมมองของสังคมกับชุมชนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตไม่ได้เป็นเรื่องที่แย่หรือน่ากลัว มันไม่ได้ไกลตัว …” 

“ทุกธุรกิจ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีความเสี่ยงหมด แต่ว่าพอคนเริ่มเข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายอย่างเช่นเราร่วมกับทาง Major แล้วทำไมคนอื่นจะทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของตัวผมเองและทางบริษัท เพื่อที่จะเปลี่ยนทัศนคติสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นสำหรับวงการนี้”

โดยปัจจุบันเหรียญ ZMT มีระดับราคาการซื้อขายกันอยู่ที่ 68 บาท นับเป็นการพุ่งขึ้นมากกว่า 1,300% จากการเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปลายปีที่ผ่านมาด้วยราคาที่ 4.7 บาท ซึ่งถือเป็นการทำจุดสูงสุดใหม่รายวันกันเลยทีเดียว

และนี่ก็เป็นบทสัมภาษณ์ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล หรือคุณแบงค์ หัวเรือใหญ่แห่ง Zipmex ที่ได้มาแบ่งปันเรื่องราว Roadmap ของเจ้าเหรียญ ZMT และอัปเดตโปรเจกต์ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

ซึ่งต้องติดตามกันต่อว่าในอนาคตจะมีกิจกรรมหรือความคืบหน้าใดที่สั่นสะเทือนวงการคริปโต นักลงทุนไม่ควรพลาดทุกข่าวสาร