<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หากราคา Bitcoin พุ่งไปแตะ 30 ล้านบาท จะทำให้เกิดมหาเศรษฐีพันล้านทั้งหมดกี่คน?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นในสังคม มันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและชัดเจน เมื่อสิบปีที่แล้ว มูลค่าตลาดของ Apple เพิ่งจะเท่ากับมูลค่าตลาดของ Exxon Mobile ที่ 3.1 แสนล้านดอลลาร์ ในทศวรรษที่ผ่านมา มูลค่าตามราคาตลาดของ Apple เพิ่มขึ้นกว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ และ Exxon ลดลง 1 แสนล้านดอลลาร์เป็น 2.16 แสนล้านดอลลาร์ ช่องว่างนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ

เมื่อหันมาพูดถึง bitcoin แม้ว่าความผันผวนของมันจะทำให้เราเคยชินแล้ว แต่ bitcoin ก็กำลังเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ราคาของมันได้พุ่งทะลุ 50,000 ดอลลาร์ไปอีกครั้ง และราคาของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 280% จากปีที่แล้ว Bitcoin, blockchain และ crypto ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่เติบโตเร็วที่สุดในวงการเทคโนโลยี ซึ่งเห็นได้จากบริษัทร่วมทุน Andreeson Horowitz ที่ออกมาสร้างกองทุนคริปโตมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์

Balaji Srinivasan ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของ Andreeson Horowitz หรือ CTO คนแรกของ Coinbase เขียนบทความเรื่อง “The Billionaire Flippening” ซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะเป็นผลกระทบทางสังคมเชิงโครงสร้างของราคาที่เพิ่มสูงขึ้นของ bitcoin

เมื่อผู้ที่คลั่งไคล้สกุลเงินดิจิทัลได้ยินคำว่า “Flippening” คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่ามันเป็นเรื่องของการที่มูลค่าตลาดของ Ethereum แซงหน้าของ Bitcoin อย่างไรก็ตาม สำหรับ Balaji ดูเหมือนว่ายังมีอีกเหตุการณ์ flippening ที่น่าสนใจมากกว่า ซึ่งนั่นก็คือการที่คนถือ BTC มีมูลค่าสินทรัพย์ที่เยอะกว่าของมหาเศรษฐีจากยุคเก่า

เขากล่าวว่าเมื่อราคา bitcoin วิ่งไปแตะ $100,000 จะมีมหาเศรษฐี bitcoin มากพอๆ กับมหาเศรษฐีจากยุคเก่า เมื่อ bitcoin มีราคาถึงหนึ่งล้านดอลลาร์ (30 ล้านบาท) มหาเศรษฐี bitcoin และ crypto บนโลกจะเกินจำนวนมหาเศรษฐีจากยุคเก่า

นาย Balaji ได้อธิบายมันออกมาเป็นตัวเลขตามนี้

“มี address ประมาณ 2,393 address ที่ถือเหรียญมากกว่า 1,000 BTC และหากราคามันไปถึง 1 ล้านดอลลาร์ เจ้าของ addresss ทั้งหมด 2,393 address นั้นจะกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน”

“ปัจจุบัน Bitcoin กินส่วนแบ่งตลาดประมาณ 60% ของตลาด crypto ทั้งหมด ดังนั้น สมมติว่ามีการกระจายความมั่งคั่งที่คล้ายกันสำหรับเหรียญอื่น ๆ และสมมติว่ามูลค่าตลาดของ crypto ทั้งหมดนั้นมีมูลค่าที่เพิ่มตาม bitcoin ก็ให้เราคูณ 2393 ด้วย 1/0.6 เพื่อหาจำนวน address ของมหาเศรษฐี crypto ที่จะมีประมาณ 4000 address ปัจจุบันมีมหาเศรษฐีประมาณ 2,000 คน 4000/(4000+2000)=0.66 หมายความว่า ~66% ของมหาเศรษฐีมาจาก crypto ซึ่งถือว่าเวอร์มาก เท่าที่ผมจำได้ ย้อนกลับไปเมื่อเพื่อนร่วมงานของผมเคยประเมินว่าราคาที่น่าจะสมเหตุสมผลคือ $200k/BTC หรือระหว่าง $100k-1M/BTC ดังนั้นตัวเลขมหาเศรษฐีพันล้านจากคริปโตที่ 2,000 จึงดูน่าเชื่อถือมากกว่าที่ 4,000 หากพิจารณาจากจำนวน Bitcoin ใน address ที่ลดลงแบบก้าวกระโดด”

นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งนามว่า Jacob Kozhipatt ได้ทำการคำนวณเพิ่มด้วยแคลคูลัส โดยนำเอาค่า CAGR (Compounded Annual Growth) ของ bitcoin ที่ 200% มาคำนวณด้วย หมายความว่ามีเหตุผลที่จะคิดว่าภายในสองปีข้างหน้า เศรษฐีพันล้านคนครึ่งโลกจะสร้างรายได้มหาศาลจากการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล (เมื่อหนึ่ง bitcoin เท่ากับ 1 แสนดอลลาร์) และภายในห้าปี (เมื่อหนึ่ง bitcoin เท่ากับ 1 ล้านดอลลาร์) จะมีมหาเศรษฐี bitcoin/crypto มากกว่าจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมกัน!

สิ่งนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในความมั่งคั่งนับตั้งแต่การเกิดขึ้นของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในทศวรรษ 1980 ตั้งแต่ตอนที่ Apple ผูกมูลค่าตามราคาตลาดของ Exxon Mobile ในเดือนสิงหาคม 2011 ตั้งแต่นั้นมาทิศทางของทั้งสองบริษัทก็วิ่งไปในทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

Apple กลายเป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ และตอนนี้มีมูลค่าตลาดที่สูงถึง 2.478 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่าของ Exxon ถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์

ในยุคข้อมูลข่าวสาร การเปลี่ยนแปลงนั้นคงที่ และใครก็ตามที่คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างถูกต้องก็จะได้รับรางวัลอย่างงดงาม แม้ว่าอนาคตของ Bitcoin จะไม่แน่นอน แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในยุคของเรา การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกรรมทางการเงิน, การเข้าสังคม และการจัดโครงสร้างของสังคม ดังนั้นสำหรับพวกคุณทุกคน อยากจะบอกให้ทำการ HODL เหรียญของคุณไว้ มหาเศรษฐีในอนาคตส่วนใหญ่ของโลกทำแบบนั้น!