<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เจ้ามือ Bitcoin เริ่มมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ จะส่งผลอะไรต่อตลาด?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เราได้เห็นการทำธุรกรรมของเจ้ามือเหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ตามมูลค่าตลาดอย่าง Bitcoin (BTC) นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือการทำธุรกรรมของเจ้ามือนั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้นขนาดของธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน $100,000 ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 3,266 ธุรกรรมท่ามกลางช่วงที่ราคาของ Bitcoin นั้นเพิ่มขึ้นเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

ผลที่เกิดจากการทำธุรกรรมขนาดใหญ่นั้นคือราคาของ Bitcoin นั้นวิ่งทะลุ $48,000 ก่อนที่จะมีการปรับตัวลงมาเล็กน้อยโดยราคาตอนนี้อยู่ที่ $47,172 มูลค่าตลาดของ BTC ตอนนี้อยู่ที่ 896,000 ล้านดอลลาร์โดยมีปริมาณการื้อขายสูงกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การทำธุรกรรมของเจ้ามือที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเทขาย Bitcoin ครั้งใหญ่นับตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากปี 2021 เป็น 2022 ในสัปดาห์นี้เพียงสัปดาห์เดียวมีรายงานว่ามีการล้างพอร์ต Bitcoin มูลค่ารวมถึง 230 ล้านดอลลาร์โดยส่วนมากจะมาจากผู้ถือกระเป่ารายใหญ่

Kyle Davies ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน Three Arrows Capital กองทุนป้องกันความเสี่ยง Crypto ในสิงคโปร์ เปิดเผยว่า แม้จะมีการทำธุรกรรมของเจ้ามือที่เพิ่มมากขึ้น, การเทรดโดยใช้ leverage ลดน้อยลงไป, ความตึงเครียดทางการเมืองและข้อกังวลอื่น ๆ ที่มีเข้ามาแต่ก็ดูเหมือนว่าตลาด Bitcoin จะยังคงแข็งแกร่ง

ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีนอกเหนือจากนี้ Fed ก็ได้มีการพูดเป็นนัยว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นจำนวนหลายครั้งในปีนี้ซึ่งอาจเป็นผลให้ตลาดเกิดการชะงักและไม่เสถียร

ผลที่ตามมาคือสินทรัพย์เสี่ยงเช่น หุุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงและอสังหาริมทรัพย์ก็มีแนวโน้มราคาที่สูงขึ้นเช่นกันผลที่ตามมาก็คือจำนวนผู้คนที่มีความสนใจใน Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่น ๆ มีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อที่พวกเขานั้นหวังว่าจะเอาตัวรอดจากตลาดผันผวนเช่นนี้ได้

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้ว Jeff Dorman ซึ่งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Arca บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลได้กล่าวว่า

“การขายสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดนั้นมากเกินไปและไม่สมเหตุสมผลนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นโดยทั่วไปแล้วตลาดจะปรับตัวสูงขึ้นในระหว่างการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเมื่อสิ้นสุดรอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดมักจะไปในทิศทางอื่น”

บางทีอาจเนื่องมาจากการกลัวตกรถบริษัทขนาดใหญ่และสถาบันต่าง ๆ ก็ได้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้ด้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพียงสัปดาห์เดียว มีรายงานว่าการเพิ่มทุนในโปรเจกต์คริปโตและเงินทุนอยู่ที่กว่า 193 ล้านดอลลาร์ โดยที่ Bitcoin คิดเป็นสัดส่วนที่ถูกลงทุนมากที่สุด