<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บริษัทด้าน Web3 ชื่อดัง Reli3f ระดม 1.5 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือยูเครนท่ามกลางการบุกของรัสเซีย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Reli3f ได้เปิดตัว NFT ชุดที่ 2 ของพวกเขาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยที่พวกเขาสามารถระดมทุนไปได้กว่า $300,000 สำหรับองค์กรการกุศลของยูเครนที่ได้รับการยอมรับและทำให้ยอดของเงินทั้งหมดนั้นอยู่ที่ 1.5 ล้านดอลลาร์

Reli3f ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการ Web3 ที่มีชื่อเสียงหลายคนไม่ว่าจะเป็น Satvik Sethi, Andrew Wang, Giovanni Gussen, Aleksandra Artamonovskaja, Raskalov และผู้พัฒนา SignorCrypto ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ทาง Reli3f ได้รวมเอาศิลปินมากด้วยความสามารถกว่า 62 คนจากทั่วโลกเพื่อร่วมกันแสดงถึงศักยภาพด้านการกุศลอันมากล้นของ NFT เพื่อทำให้สังคมนั้นดียิ่งขึ้น

ทีมงานเลือกนั้นที่จะแจกจ่ายเงินทุนของคอลเลกชันแรกในองค์กรต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 46.25 ETH ให้กับ Razom Ukraine, Serhiy Prytula Foundation, สำนักงานใหญ่ Valery Sozanovsky และ CEO Club ตามหลักฐานของ Gnosis ผู้ให้บริการ multi-sig wallet นอกจากนี้ ยังมีการมอบ ETH เพิ่มเติมอีก 40 รายการให้กับ Outright Action International และ Web3 For Africans ในยูเครนผ่านเงินส่วนแบ่งของเงินทุน

จากแรงผลักดันและการสนับสนุนในด้านวัฒนธรรมของคอลเล็กชั่นที่เพิ่งได้เปิดตัวของพวกเขาซึ่งรวมถึงศิลปินชื่อดังอย่าง fvckrender ,ผู้ร่วมก่อตั้ง Cool Cats, Clon และ Danny Cole ผู้สร้าง Creature World ทีมงานได้ย้ำถึงความทุ่มเทของพวกเขาในการสนับสนุนโปรเจ็กต์นี้ด้วยการเปิดตัว NFT ชุดที่สอง

Drop 2 ได้นำเสนอสมาชิกทีม Reli3f ประกอบด้วย Aleksandra Artamonovskaja ร่วมกับผู้สร้าง Coolman Universe, Danny Casale และไอคอนแห่งวงการเพลงอย่าง Sia ภายใต้นามแฝง Bianca ‘de Medici ของเธอ และสมาชิกคนอื่น ๆ อีกมากมาย

จากข้อมูลของ Sethi มีศิลปินเพียง 5 จาก 37 ศิลปินที่เลือกที่จะเก็บค่าลิขสิทธิ์รายได้ไว้กับตัวเองและในกรณีดังกล่าวนั้นพวกเขาจะโอนเงินไปให้คนที่พวกเขารักในยูเครนหรือเพื่อยกระดับสถานการณ์ส่วนตัวเท่านั้น

เงินทุนส่วนอื่น ๆ ทั้งหมดจะถูกแจกจ่ายกลับไปยังคลังเพื่อการกุศลซึ่งเป็นเทรนด์ที่ถูกจำลองขึ้นในคอลเลกชันที่สอง

Tom Farren นักข่าวเทคโนโลยีของ Cointelegraph ได้พูดคุยกับ Aleksandra Artamonovskaja, Satvik Sethi และ Andrew Wang เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโปรเจ็กต์, การเปิดกว้างของศิลปินที่จะเข้าร่วมตลอดจนอนาคตของ Reli3f ท่ามกลางโมเดลในการปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่วสำหรับองค์กรอิสระที่กระจายอำนาจ (DAO)

“สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Drop คือมีศิลปินจำนวนมากที่ไม่เคยสร้างผลงานมาก่อนหรือไม่ถือว่าตัวเองเป็นศิลปิน NFT มาแต่เดิมเราพยายามที่จะรักษาสมดุลอย่างแท้จริงไม่ใช่แค่ดึงเอาคนดังเข้ามาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงดึงคนที่มาจากภูมิภาคต่าง ๆ และมีเรื่องราวชีวิตที่แตกต่างกันด้วย” – Artamonovskaja กล่าว

จากประสบการณ์ส่วนตัวในฐานะพลเมืองยูเครน Artamonovskaja กล่าวว่า “หากไม่มีโมเมนตัมก็สามารถจบลงได้เป็นสงครามที่ติดอยู่ในพื้นที่ของเราและกลายเป็นบรรทัดฐานเราเพียงแค่ต้องการให้เรื่องนี้จบลงเพื่อให้ผู้คนสามารถกลับบ้านและเริ่มต้นในการสร้างใหม่”

มีการแชร์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสำเร็จของ Drop แรก Sethi เปิดเผยว่าพวกเขามี “ศิลปินมากมายที่ติดต่อเราโดยพูดว่า ‘ทำไมคุณถึงไม่ขอให้เราเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องนี้และเรายินดีที่จะให้การช่วยเหลือ’ ” หลังพบเห็นความเป็นกระแสที่เพิ่มมากขึ้น

Sethi ยังให้รายละเอียดว่า Drop 2 ใช้เวลา “หนึ่งเดือนในการสร้าง” และ “เราไม่ได้ให้เวลากับตัวเอง” เช่นเดียวกับคอลเล็กชันแรกนี้ แต่เพื่อให้กระบวนการสร้างเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ความเฟื่องฟูของชุมชน Web3 ซึ่งเดิมเกิดขึ้นบน Clubhouse และตอนนี้เหนือไปอีกขั้นบน Twitter นั่นจึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับสิ่งที่ Wang กล่าวถึงว่าเป็น “พลังของเอฟเฟกต์เครือข่าย” ที่จะเกิดขึ้น กล่าวคือความสามารถที่เข้าถึงได้ง่ายและปรับขนาดได้รวดเร็วสำหรับผู้มีอิทธิพลและผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อกระตุ้นนวัตกรรมทางสังคมและวัฒนธรรมภายในพื้นที่

“ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ Reli3f น่าสนใจสำหรับหลาย ๆ คนก็คือมันไม่ได้เป็นเพียงกรณีใช้งานสำหรับเสรีภาพในการทำธุรกรรมผ่าน crypto หรือแม้แต่กรณีการใช้งานสำหรับการใช้งานศิลปะเพื่อเป็นการบริจาคแต่เป็นกรณีใช้งานสำหรับชุมชนอย่างไรที่สามารถเรียกร้องให้ดำเนินการได้ในชั่วเวลานั้น” Wang กล่าว