<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ Polysign เชื่อว่าตลาด Crypto ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะฟื้นตัว ‘อย่างไม่ต้องสงสัย’

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคาของคริปโตแต่ละตัวในตอนนี้ได้สร้างความลังเลใจให้กับนักลงทุนว่าช่วงที่เลวร้ายที่สุดของตลาดนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้วหรือเรามีโอกาสได้เห็นราคาดิ่งลงกว่านี้อีก

แต่มีความเห็นจากผู้บริหารบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตรายหนึ่งให้มุมมองว่าตลาดคริปโตในช่วงครึ่งหลังของปีจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

Crypto จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2022

Jack McDonald CEO ของ Polysign บอกกับทาง CNBC ว่าช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของตลาดคริปโตได้ผ่านไปแล้วและนักลงทุนอาจได้เห็นการกลับตัวอย่างแข็งแกร่งในไม่อีกกี่เดือนต่อจากนี้

เขาระบุว่าราคาของ Bitcoin, Ethereum, Cardano, Solana และ cryptocurrency ตัวอื่น ๆ ที่ลดลงนั้นเป็นเพราะถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง” โดยมีความสัมพันธ์กับตลาดอื่นเป็นวงกว้างมากขึ้น

ตลาด crypto กำลังประสบกับการเทขายครั้งใหญ่โดย Bitcoin ราคาได้ร่วงลงไปแตะที่ $28,000 และมีการล้างพอร์ตไปกว่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยราคาองเหรียญที่ลดลงเข้าขั้นหายนะก็คือ TerraUSD (UST) ที่ไม่สามารถ peg ให้เท่ากับเงินดอลลาร์ได้และ “ความตาย” ก็ได้คืบคลานเข้ามาหา LUNA

Jack กล่าวเสริมว่าคำกล่าวที่บอกว่า Bitcoin และ cryptocurrency อื่น ๆ นั้นเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อกำลังเปลี่ยนไป เขาอ้างถึงตลาด crypto และตลาดหุ้นที่สัมพันธ์กันมากขึ้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสงครามในยุโรปเขากล่าวว่า

“ผมยังเชื่อว่าในระยะยาวคุณจะเห็นตลาดคริปโตตัดขาดจากแนวโน้มของตลาดอื่น ๆ แต่ล่าสุดก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีความสัมพันธ์กันที่แข็งแกร่งมาก” 

เขาเสริมว่าความสนใจของนักลงทุนสถาบันกำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความเชื่อที่ว่าตลาดได้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว เขาสรุปการสัมภาษณ์โดยระบุว่าในช่วงครึ่งหลังของปีจะตลาดคริปโตจะมีเหรียญคริปโตจำนวนมากฟื้นตัว

“ผมคิดว่าผู้ถือครองจะยังคงยึดมั่นในจุดยืน” Jack กล่าว “ผมคิดว่าจะเงินที่จะไหลเข้ามาในช่วงขาลงของตลาดสำหรับคนที่มองเป็นโอกาสที่แท้จริงในระยะยาวและผมก็ยังมองตลาดเป็นขาขึ้น”

ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนก็ยังคงมองภาพรวมในระยะยาวเป็นขาขึ้นแต่ในระยะสั้นนั้นแนวโน้มของนักวิเคราะห์หลายต่อหลายเจ้านั้นแตกออกเป็น 2 เสียงซึ่งสิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือคอยจับตาดูแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในปีนี้ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตในอนาคตอันใกล้นี้ได้อีกระลอก