<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ไขความลับความสำเร็จของฝาแฝด Winklevoss สองพี่น้องเจ้าของ Bitcoin มูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Tyler Winklevoss และ Cameron Winklevoss รู้จักกันดีในชื่อฝาแฝด Winklevoss โดยทั้งคู่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นการฟ้องร้องคดีกับ Mark Zuckerberg ฐานขโมยเดียในการสร้าง Facebook, การเป็นแชมป์แข่งขันพายเรือประเภทชายคู่ในกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ที่ปักกิ่ง ซึ่งฉายในรายการ The Social Dilemma และที่สำคัญคือพวกเขาเป็นมหาเศรษฐีจากการเป็นผู้ลงทุนคริปโตยุคบุกเบิก โดยในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะมาเล่าเกี่ยวกับเส้นทางความสำเร็จของพวกเขา และบทเรียนที่อาจมีประโยชน์ในการประยุกต์ใช้กับลงทุนตามแบบฉบับของสองพี่น้องมหาเศรษฐีคู่นี้

เส้นทางสู่ความมั่งคั่งของสองพี่น้อง Winklevoss

  • ปี 2008: พี่น้องทั้งสองได้รับเงินมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ จากการชนะคดีที่กล่าวหาว่า Mark ได้ขโมยไอเดีย และนำโค้ดบางส่วนที่สองพี่น้องจ้างให้ Mark Zuckerberg เขียนขึ้นมาไปใช้ประโยชน์ 
  • ปี 2012 : สองพี่ฝาแฝดก่อตั้ง  Winklevoss Capital บริษัทที่มอบเงินทุนให้กับบริษัท Start-up ต่าง ๆ โดยได้มีการลงทุนเกือบ 100 โปรเจกต์ ปัจจุบันนี้ บริษัทดังกล่าวได้มุ่งเน้นลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพคริปโตเป็นหลัก
  • ปี 2012-2013 : สองพี่น้องเป็นเจ้าของ  Bitcoin มูลค่าประมาณ 11 ล้านดอลลาร์  โดยพวกเขาซื้อ Bitcoin ในราคาเพียง $10 ต่อเหรียญ แต่ไม่นานหลังจากนั้น ราคาของ Bitcoin ก็ลดลงอย่างหนัก แต่สองพี่น้องก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใด
  • ปี 2013 : Charlie Shrem อดีต CEO ของ BitInstant  เว็บเทรด Bitcoin แห่งแรกของสหรัฐฯ ถูกจับกุมข้อหาซื้อขาย Bitcoin ที่ถูกใช้ในธุรกรรมยาเสพติด และฟอกเงิน ส่งผลให้ BitInstant ปิดตัวลงในปลายปีนั้น สองพี่น้องก็จึงได้ฟ้องร้อง Shrem ในปี 2018 โดยกล่าวว่า Shrem ได้ขโมย Bitcoin ไปจากพวกเขา 
  • ปี 2014 : สองพี่น้อง Winklevoss ก่อตั้ง Gemini เว็บเทรดคริปโต ที่ได้ชื่อว่าเป็นเว็บเทรดที่ปลอดภัยที่สุด และเป็นหนึ่งในเว็บเทรดแรก ๆ ที่ได้รับการยอมรับจาก New York State Department of Financial Services (NYSDFS) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีกฎระเบียบด้านคริปโตที่เข้มงวดที่สุดในสหรัฐอเมริกา 
  • ปี 2017: มูลค่า Bitcoin พุ่งขึ้นมากกว่า 18,000 ดอลลาร์ แต่สองพี่น้องก็ยังไม่ได้ตัดสินใจขาย
  • ปี 2019: Winklevoss Capital ลงทุนกับ BlockFi ผู้ให้กู้เหรียญคริปโตรายแรก ๆ ในสหรัฐฯ 
  • ปี 2019: บริษัท Gemini ของพี่น้องคู่นี้ซื้อกิจการ Nifty Gateway ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ NFT ของสะสมดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์ มักเป็นงานศิลปะหรือเพลง เป็นวงการในโลกคริปโตที่เฟื่องฟูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
  • ปี 2021: ทั้ง BlockFi และ Gemini ต่างก็ยื่นขอเปิดตัวบัตรเครดิต Crypto ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปีนั้น ทำให้สองพี่น้องกลับมาอยู่ในแนวหน้าของอุตสาหกรรมอีกครั้ง 
  • ปี 2021: มูลค่าเหรียญ Bitcoin เพิ่มขึ้นแตะระดับ All-time high อยู่ที่มากกว่า $60,000 โดย Forbes ประมาณการจำนวน Bitcoin ที่สองพี่น้องถือครองอาจมีถึง 70,000 BTC รวมถึงเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ 

เคล็ดลับความสำเร็จของสองพี่น้อง

จากเรื่องราวของสองพี่น้อง เราเห็นได้ว่าฝาแฝดทั้งสองผ่านเหตุการณ์มากมายแต่ก็ยังอดทนรวยได้จนถึงปัจจุบัน

  • ลงทุนระยะยาว ช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะสั้น ฝาแฝด Winklevoss ถือเหรียญ Bitcoin ไว้ทั้งช่วงที่ราคาสูงและต่ำ พวกเขาขาย Bitcoin เพียงครั้งเดียวในตอนที่ก่อตั้ง Gemini อีกทั้งสองพี่น้องยังศึกษาค้นคว้าข้อมูลของคริปโต และเชื่อในพลังของเทคโนโลยีนี้ 
  • ควรเลือกเว็บเทรดที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้ แม้ว่าสองพี่น้องจะพลาดเลือกเว็บเทรดที่มีเจ้าของเป็นอาชญากร แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดนั้นได้ เนื่องจากปัจจุบันมีเว็บเทรดหลายแห่งที่มีชื่อเสียงและมีความปลอดภัย
  • รู้จักเก็บเงิน และลงทุนด้วยจำนวนเงินที่สูญเสียได้ ในเหตุการณ์ที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงสุดครั้งแรก สองพี่น้องก็ยังคงไม่ได้ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย และเลือกที่จะใช้รถมือสองเท่านั้น เพื่อนำเงินเก็บมาลงทุนต่อ 

ในสถานการณ์ที่ผู้คนต่างต้องการหาเส้นทางรวยเช่นนี้ มีสิ่งสำคัญที่เราควรต้องจำไว้ว่า การลงทุนคริปโตมีความผันผวนสูง และการลงทุนด้วยเงินทั้งหมดที่มีถือเป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาดนัก ฝาแฝด Winklevoss แสดงให้เราเห็นว่า การลงทุนระยะยาวนั้นมีความปลอดภัยและมั่นคงมากกว่าเพียงใด การลงทุนจึงควรมาคู่กับความพร้อมเสี่ยงและการศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน  

ที่มา: The ascent