ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยาวนานมาหลายปีถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเมื่อผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีดินแดนอิสราเอลขั้นรุนแรง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภูมิภาคและส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมทั้งตลาด cryptocurrency
สินทรัพย์ส่วนใหญ่ในตลาด cryptocurrency มีการซื้อขายลดลงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยกเว้น Bitcoin (BTC) ซึ่งยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงและมีการขาดทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตลาด cryptocurrency มีมูลค่าลดลง 1.56% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และลดลง 1.47% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.074 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 10 ตุลาคม
ผลกระทบของความขัดแย้งในตะวันออกกลางต่อตลาด cryptocurrency ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ บางคนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวที่อาจส่งผลต่อตลาดในระยะสั้นเท่านั้น ในขณะที่บางคนเชื่อว่าอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาว
ในขณะที่รายงาน ตลาด crypto มีมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 1.074 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 1.56% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือลดลง 1.47% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา จากประมาณ 1.09 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 3 ตุลาคม อ้างอิงตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ในขณะเดียวกัน ระดับการพูดคุยในแวดวงคริปโตได้เปลี่ยนจากการพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับราคาปกติไปสู่เรื่องอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ อ้างอิงตามรายงานที่เผยแพร่โดย Santiment เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม
ผู้เชี่ยวชาญของแพลตฟอร์มติดตาม cryptocurrency ระบุว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังไม่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่ความอ่อนไหวด้านราคาที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
วิเคราะห์ราคาบิทคอยน์
ในขณะที่รายงาน Bitcoin กำลังซื้อขายกันอยู่ที่ 27,707 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งลดลง 0.44% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 0.56% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 7.19% ในกราฟรายเดือน
เห็นได้ชัดว่า เหตุการณ์ระดับโลกต่างๆ ล้วนได้ส่งผลต่อตลาด cryptocurrency ในหลายโอกาส ตัวอย่างเช่น การที่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นำไปสู่การเทขายสินทรัพย์จำนวนมากและส่งผลให้สูญเสียเงินไปกว่าครึ่งพันล้านดอลลาร์
ด้วยเหตุนี้สงครามที่เกิดขึ้นในอิสราเอล จึงทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก และนักลงทุนจำนวนมากอาจพากันขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น cryptocurrency ส่งผลให้ราคา cryptocurrency ลดลงตามมา
ที่มา : Finbold