<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

BlackRock เตือน! การจัดประเภท Bitcoin ว่าเป็น “หลักทรัพย์” จะส่งผลเสียต่อมูลค่าของมัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัท BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ในโลกและเป็นหนึ่งในผู้ที่ยื่นกองทุน Bitcoin ETF ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับผลที่ตามมาจากการจัดประเภท Bitcoin ว่าเป็น “หลักทรัพย์” ของสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐหรือ SEC

บริษัทได้กล่าวในการอัปเดตการยื่นกองทุน ETF โดยกล่าวว่า “หากสินทรัพย์ดิจิทัลถูกจัดเป็นหลักทรัพย์ ก็มีแนวโน้มว่าการซื้อขาย หรือดูแลสินทรัพย์จะเป็นเรื่องยากในสหรัฐอเมริกา”

นอกจากนี้ บริษัท BlackRock เตือนว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อ Bitcoin

“การกระทำใด ๆ โดย SEC หรือหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐที่ยืนยันว่า Bitcoin เป็น “หลักทรัพย์” หรือคำตัดสินต่าง ๆ ของศาล จะส่งผลเชิงลบต่อมูลค่าของ Bitcoin ในทันที และส่งผลเสียต่อ Bitcoin ETF เช่นกัน”

BlackRock ได้พูดถึงผลกระทบของคดีความระหว่าง SEC และบริษัท Ripple โดยก่อนการฟ้องร้องเหรียญ XRP มี Market Cap สูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ แต่ในช่วงหลายสัปดาห์หลังจากการร้องเรียนของ SEC เหรียญ XRP มี Market Cap ลดลงเหลือน้อยกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์

การเคลื่อนไหวล่าสุดมาจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายคนที่คาดการณ์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลจะจัดประเภท Bitcoin เป็น “หลักทรัพย์” ในขณะเดียวกัน แฟน ๆ คริปโตต่างก็คาดหวังว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะอนุมัติกองทุน ETF ให้รวดเร็วที่สุดในเดือนมกราคม 2024

ในขณะเดียวกัน บริษัท BlackRock ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อเรียกร้องที่ผู้บริหารของบริษัท Ripple ยกขึ้นมาที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของพวกเขา โดยบริษัทได้สูญเสียพาร์ทเนอร์ทั้งภายในและภายนอกสหรัฐอเมริกา

ในขณะเดียวกัน มูลค่าของเหรียญ XRP ก็ร่วงลงมาและหยุดนิ่ง และในตอนนี้มีเพียง Bitcoin และ Ethereum เท่านั้นที่ดูเหมือนจะไม่ถูกจัดเป็นหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถวางใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ SEC เริ่มจับตาดูเครือข่ายคริปโตมากขึ้นเรื่อย ๆ

โดยก่อนหน้านี้นาย Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano เป็นหนึ่งใน CEO ของบริษัทคริปโตคนล่าสุดที่แสดงไม่พอใจต่อการตัดสินใจของ SEC เกี่ยวกับ Bitcoin และ Ethereum

Source: Coinedition