<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

11 เหมืองขุดยักษ์ใหญ่ ‘เสี่ยงขาดทุนหนัก’ หลังเหตุการณ์ Bitcoin Halving 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin halving อาจส่งผลร้ายแรงต่อผู้ ขุด Bitcoin หากราคา BTC ไม่พุ่งสูงขึ้น แม้ว่ากลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ก็ตาม

เหมืองขุด Bitcoin ( BTC ) รายใหญ่ที่สุด 11 ราย อาจตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะ ‘ขาดทุน’ หากราคาของ BTC ยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ หลังจากการ Halving 

ตามโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 25 มกราคม Matthew Shultz ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง CleanSpark ได้แชร์งานวิจัยจาก Cantor Fitzgerald พร้อมระบุว่า บริษัทเหมือง Bitcoin รายใหญ่จำนวนมาก รวมถึง Marathon Digital, Riot Platforms และ Core Scientific อาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นหลังจากการปรับลดรางวัลขุด Bitcoin

อย่างไรก็ตามแม้ว่าราคา Bitcoin จะส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของนักขุด Bitcoin  แต่ผู้บริหารจาก Luxor ระบุว่า นักขุดมักจะใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากราคา Bitcoin ที่ผันผวน

นักขุด Argo Blockchain (ARBK) ในสหราชอาณาจักร และ Hut 8 mining จากฟลอริดา เป็นนักขุดที่ประสบปัญหาภาวะขาดทุนมากที่สุด หลังจาก Bitcoin halving  (อ้างอิงจากราคา Bitcoin ปัจจุบัน) ทั้งสองบริษัทมีต้นทุนการขุดต่อเหรียญ (“all in” cost-per-coin) สูงมาก โดย Argo Blockchain อยู่ที่ 62,276 ดอลลาร์ ส่วน Hut 8 mining อยู่ที่ 60,360 ดอลลาร์

ตามรายงานที่อัปเดตเมื่อวันที่ 5 มกราคม บริษัท Hut 8 ระบุว่า พวกเขามีปริมาณ Bitcoin สำรองทั้งหมด 9,195 BTC ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 377 ล้านดอลลาร์ ณ ราคาปัจจุบัน

บริษัทเหมืองขุดแห่งเดียวที่นักวิเคราะห์ของ Cantor คาดว่า จะรักษาระดับความสามารถในการทำกำไร หลังจากการ halving ได้ คือบริษัทเหมืองขุด Bitdeer ในสิงคโปร์ และบริษัท CleanSpark ของสหรัฐอเมริกา โดยสมมติว่า Bitcoin ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000 ดอลลาร์และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอัตราแฮชเรท

ตัวชี้วัด “all in per coin” ของ Cantor หมายถึง ต้นทุนทั้งหมดที่นักขุด Bitcoin จะต้องใช้ในการขุด Bitcoin  รวมถึงค่าไฟฟ้า ค่าธรรมเนียมโฮสติ้ง และค่าใช้จ่ายเงินสดอื่น ๆ

Bitcoin halving ปัจจุบันมีกำหนดจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นกลไกการปรับลด รางวัลที่ได้ การขุด Bitcoin ลงครึ่งหนึ่ง

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจำนวนมากมองว่า อุปทานที่ลดลงนี้เป็นปัจจัยหนุนต่อราคา Bitcoin ในระยะยาว แต่ขณะเดียวกันก็หมายความว่า นักขุดที่มีต้นทุนการดำเนินงานสูงอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ สถานการณ์จะเลวร้ายลงแน่นอน หากราคา Bitcoin ไม่พุ่งสูงขึ้น จนสามารถครอบคลุมต้นทุนเหล่านี้เอาไว้ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบรรดานักวิเคราะห์ตลาดจำนวนมากคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงหลายเดือนหลังเกิดเหตุการณ์ halving 

Dan Rosen รองผู้อำนวยการฝ่ายอนุพันธ์ของ Luxor บริษัทขุด Bitcoin กล่าวว่า นักขุดมักใช้วิธีการต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา Bitcoin กลยุทธ์ที่พบบ่อย ได้แก่ การซื้อสัญญาล่วงหน้า (derivatives) ทั้งสัญญาล่วงหน้าอัตราแฮชเรท (hash rate) และ Bitcoin Option เพื่อป้องกันผลกระทบจากความผันผวนของราคา

ที่มา : cointelegraph