<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 เหตุผลว่าทำไม Pullix (PLX) จะให้ผลตอบแทนโตกว่า MATIC และ Solana  ในปี 2024

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา นักวิเคราะห์คริปโตเคอร์เรนซี่ส่วนใหญ่ได้มีการคัดเลือกเหรียญคริปโตชั้นนำที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนมหาศาลในปีนี้ และในบรรดาเหรียญคริปโตที่ถูกคัดเลือกมาทั้งหมดก็มีเหรียญ Pullix (PLX) ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ คริปโต DeFi ที่กำลังถูกจับตามองว่ามันจะสามารถสร้างตอบแทนได้สูงสุดในปีนี้  เนื่องจาก โทเค็นดั้งเดิมของระบบจะมีอิทธิพลอย่างสูงในตลาด DeF ประกอบกับแคมเปญโทเคนพรีเซลที่ใกล้จะจบลงแล้ว หลังจากตัวโทเคนประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมให้ผลตอบแทนเหนือกว่า Polygon (MATIC) และ Solana SOL

ทำไม Pullix (PLX) ถึงเป็นการลงทุนทางเลือกที่ดีที่สุดในการสร้างผลกำไรมหาศาล

ตามข้อมูลจาก  CoinGecko ระบุว่า Pullix (PLX) ได้รับการยืนยันว่าจะมีการลิสต์เหรียญบน  BitMart แพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบ Centralized Exchange (CEX)  และ Uniswap แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตแบบ Decentralized Exchange (DEX) บน Ethereum Blockchain ภายในวันที่ 4 มีนาคมนี้

นับตั้งแต่เปิดโทเคนพรีเซล Pullix ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยสามารถกวาดเงินระดมทุนได้มากกว่า 9.5 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ตัวโทเคนเปิดขายมาในราคา 0.168 ดอลลาร์  ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดรวมของโทเคนขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 33 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ Pullix สามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดในปีนี้ คงหนีไม่พพ้นลักษณะที่พิเศษของโปรเจกต์ โดยมันคือโปรเจ็กต์  DeFi แบบไฮบริด ซึ่งเป็นโฮสต์แพลตฟอร์มที่รวมองค์ประกอบสำคัญจากตลาดการเงินแบบรวมศูนย์ (CeFi)และแบบกระจายอำนาจ ( DeFi) เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี่ ได้อย่างสะดวกและความปลอดภัยมากขึ้น 

Pullix กำลังสร้างผลงานที่น่าทึ่ง โดยมียอดขายโทเค็น PLX รวมแล้วกว่า 100 ล้านโทเค็น ให้กับฐานผู้ใช้งานที่กำลังใช้งาน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 18,000 คน ประสิทธิภาพนี้ ประกอบกับฟีเจอร์สุดล้ำของโปรเจกต์ เช่น profit sharing model (PSM)  (โมเดลการแชร์ผลกำไร) ที่จะนำรายได้ของแพลตฟอร์มประจำวันไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ใช้งานที่ใช้งานอยู่ ฟีเจอร์นี้ได้สร้างความสนใจอย่างมากในตลาด DeFi ด้วยเหตุนี้ Pullix จึงอยู่ในฐานะผู้เล่นที่แข็งแกร่ง พร้อมสำหรับยอมรับที่จะเพิ่มขึ้นและศักยภาพในแง่ของราคา

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหลังจากที่โทเคน Pullix เปิดตัว จะส่งผลให้ราคามีการปรับตัวพุ่งสูงถึง 10 เท่า 

Polygon (MATIC) ประสบความสำเร็จในการเอาชนะความผันผวนของตลาด โดยตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Polygon (MATIC) ได้ทำราคาสู่จุดสุงสุดใหม่ท่ามกลางสภาวะตลาดกระทิงและมีแนวโน้มว่ามันจะสามารถทำราคาได้อย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าจะมีความผันผวนของราคาเกิดขึ้นหลายครั้ง ถ้าหากนับราคาของ Polygon ตั้งแต่ราคาจุดสูงสุดใหม่ เท่ากับว่าตัวโทเคนสามารถเก็บสะสมกำไรเกินกว่า 30% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา

ช่วงสัปดาห์ล่าสุด ราคาของโทเค็น MATIC ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.69% แม้จะมีความผันผวนอย่างชัดเจน แต่นักลงทุนยังคงเชื่อว่าตัวโทเคนจะทำราคาสูงสุดใหม่รอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาว่าโทเคน กำลังซื้อขายประจำสัปดาห์ อยู่ภายในช่วงราคา 0.9607 ดอลลาร์ และ 1.07 ดอลลาร์  ตัวชี้วัดเหล่านี้บ่งชัดว่า Polygon จะเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในตลาดคริปโตเคอเรนซี

ราคา Solana (SOL) พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุบสถิติราคาสูงสุดของปีที่แล้ว

โทเคน Solana (SOL) ได้แสดงผลงานที่น่าประทับใจอีกครั้ง โดยราคาของ Solana สามารถพุ่งทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลของปีที่แล้วอย่างรวดเร็ว หลังจากเคยทำราคาสูงสุดที่ 120 ดอลลาร์ โดยเมื่อปีที่แล้วราคาของ  Solana  ก็ได้ทะลุแนวต้านใหม่ที่ราคา 130 ดอลลาร์ โดยทำสถิติราคาสูงสุดที่  134 ดอลลาร์ เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

โทเคน SOL แบบดั้งเดิม มี การซื้อขายประจำสัปดาห์ อยู่ที่ช่วงราคา  104 ดอลลาร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 25.01% ในเดือนที่ผ่านมา และ 130 ดอลลาร์ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 25.77%  ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน การเพิ่มขึ้นของราคาประจำสัปดาห์ถึงรายเดือนที่น่าสนใจนี้ อาจส่งผลต่อราคาของ Solana มากขึ้น โดยนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ไว้ว่าโทเคนตัวนี้ราคาของมันอาจไปถึงจุดสูงสุดตลอดกาลก่อนปี 2025

หากคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมของ Pullix สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ลิ้งก์: 

บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ 

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์