<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ลืม Hodl ไปได้เลย! ชาวเน็ตรายหนึ่งคอมเฟิร์ม ขาย Bitcoin 5% ตอน “โลภสุดขีด” รวยกว่า DCA เฉย ๆ 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งได้เสนอกลยุทธ์การขาย Bitcoin 5% ของพอร์ตเวลาที่ดัชนีชี้วัดความกลัวและความโลภ (Fear and Greed Index) อยู่ในช่วง “โลภสุดขีด” โดยเขาบอกว่าวิธีนี้จะสร้างผลตอบแทน (ROI) ที่สูงกว่าการถือเฉยๆ (hodl) แบบที่คนส่วนใหญ่ชอบทำกัน

ผู้ใช้ Reddit ชื่อ u/skogsraw แชร์ผลการวิเคราะห์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ชี้ให้เห็นว่า การใช้ดัชนีชี้วัดความกลัวและความโลภ (Crypto Fear & Greed Index) เพื่อวางแผนการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA)  นั้นสามารถสร้างผลตอบแทน (ROI) ได้ดีกว่าการใช้กลยุทธ์ DCA แบบเดิม ๆ  (vanilla DCA)

กลยุทธ์แรก u/skogsraw ได้เสนอ “กลยุทธ์พื้นฐาน” ซึ่งเป็นการลงทุน Bitcoin ถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) แบบดั้งเดิม ด้วยการลงทุนเงิน $100 ทุกสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2018 ถึง 9 กันยายน 2023 กลยุทธ์นี้สร้างผลตอบแทน (ROI) ได้ที่ 124.8%

กลยุทธ์ที่สอง u/skogsraw ได้เสนอ “กลยุทธ์ DCA แบบหลายระดับ” ซึ่งเปลี่ยนแปลงการลงทุนตามดัชนีชี้วัดความกลัวและความโลภ (Crypto Fear & Greed Index) ดังต่อไปนี้

  • ช่วง “ความกลัวสุดขีด”: ซื้อ Bitcoin $150 ต่อสัปดาห์
  • ช่วง “กลัว”: ซื้อ Bitcoin $100 ต่อสัปดาห์
  • ช่วง “ปกติ”: ซื้อ Bitcoin $75 ต่อสัปดาห์
  • ช่วง “โลภ”: ซื้อ Bitcoin $50 ต่อสัปดาห์
  • ช่วง “โลภสุดขีด”: ซื้อ Bitcoin $25 ต่อสัปดาห์

สำหรับกลยุทธ์ที่สาม u/skogsraw ไม่หยุดแค่เปลี่ยนแปลงการซื้อ Bitcoin ตามระดับความกลัวและความโลภเท่านั้น เขายังได้เสนอ “กลยุทธ์ DCA แบบหลายระดับ + ขายทำกำไร” ซึ่งเป็นการขาย Bitcoin 5% ของพอร์ตที่ถืออยู่ทุกสัปดาห์โดยเฉพาะเมื่อดัชนีอยู่ในสถานะ “โลภสุดขีด”  ซึ่งกลยุทธ์นี้กลายเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ดีที่สุด สร้างผลตอบแทน (ROI) ที่ 184.2% เมื่อเทียบกับกลยุทธ์พื้นฐานที่ 124.8% และกลยุทธ์ DCA แบบหลายระดับที่ไม่ขายกำไรที่ 140.1%

ภาพ ผลลัพธ์การลงทุนด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย เพื่อวัดค่า ROI ของ BTC ที่มาภาพ : Reddit

แม้ว่า  u/skogsraw จะแชร์ผลการวิเคราะห์ที่ชี้ว่าการใช้ดัชนีชี้วัดความกลัวและความโลภ (Crypto Fear & Greed Index) ร่วมกับกลยุทธ์ DCA  สร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่เขาก็ยอมรับว่าผลการทดสอบนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบย้อนกลับ (cross-checked) และควรมีการทดสอบเพิ่มเติมใน TF อื่นๆ ด้วย
ที่มา:cointelegraph