<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ก.ล.ต.สหรัฐฯ ขยับทันทีหลังได้ผู้นำใหม่! เตรียมทบทวนคริปโทฯ ETF กว่า 70 กองทุนในปี 2025

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC)เตรียมทบทวนข้อเสนอ ที่ยื่นขอเปิดตัวกองทุนด้านคริปโท ETF มากกว่า 70 รายการ ในปี 2025 ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เหรียญ altcoin, เหรียญมีม, ดัชนี ไปจนถึงอนุพันธ์คริปโต ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเปิดทางให้สินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่การลงทุนแบบกระแสหลักได้มากขึ้น

Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2025 เปิดเผยว่า ตอนนี้มีกองทุนคริปโท ETF มากถึง 72 รายการ ที่กำลังรอการอนุมัติจาก SEC ไม่ว่าจะเป็น XRP, Litecoin, Solana ไปจนถึงเหรียญมีมอย่าง Penguins, Doge และแม้แต่ 2x Melania… เรียกได้ว่าครบทุกแนว ปีนี้น่าจะมันส์แน่นอน 

ถึงแม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะยังคงเป็นตัวเต็งในกลุ่มกองทุน ETF แต่ตลาดก็เริ่มคาดการณ์ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ภายใต้การบริหารของผู้นำคนใหม่อย่าง Paul Atkins อาจเริ่มเปิดกว้างให้กับเหรียญอื่น ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเหรียญที่ไม่มีประเด็นทางกฎหมาย หรือการฟ้องร้องกับหน่วยงานกำกับดูแล

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเหรียญที่ยื่นขออนุมัติเป็นกองทุน ETF จะได้รับไฟเขียวทั้งหมด เนื่องจากยังมีบางเหรียญอย่าง XRP และ Solana ที่เคยถูกตั้งข้อสงสัยว่า เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ (Securities) หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพิจารณาอนุมัติของหน่วยงาน SEC

Paul Atkins ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธาน SEC คนใหม่อย่างเป็นทางการ ได้ส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายที่อาจเปลี่ยนไป โดยอ้างอิงจากจุดยืนในอดีตที่เน้นการลดกฎระเบียบที่เข้มงวด

อย่างไรก็ตาม การกลับมารับตำแหน่งในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโทกำลังเติบโตและมีอิทธิพลมากขึ้น ทำให้บทบาทของเขาในครั้งนี้มีความสำคัญมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในด้านการนิยามประเภทของสินทรัพย์ และการพิจารณาว่าเหรียญใดจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตลาด ETF ได้บ้าง

นักวิเคราะห์มองว่า Paul Atkins กำลังเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญว่า จะเปิดทางให้เหรียญคริปโทบางตัวถูกจัดให้อยู่ในหมวด Trust ที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity-based Trust) หรือไม่ ซึ่งหากเป็นไปได้จริง ก็จะช่วยปูทางให้กองทุน ETF รูปแบบใหม่สามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น

ที่มา : news.shib