Grayscale Investments หนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ของโลก ประกาศเปิดตัวหมวดใหม่ในพอร์ตสินทรัพย์คริปโตของบริษัท ที่มุ่งเน้นด้าน “ปัญญาประดิษฐ์” (AI) โดยหมวดนี้จะเข้าร่วมกับโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ Currencies, Smart Contract Platforms, Finance, Consumer & Culture และ Services
หมวด AI นี้รวมสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 20 โทเคน ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยี AI ตัวอย่างเช่น Bittensor (TAO), Near Protocol (NEAR), Render (RNDR) และ Worldcoin (WLD) ซึ่ง Grayscale ได้แบ่งหมวดใหม่เป็น 3 กลุ่มย่อย ได้แก่ แพลตฟอร์ม AI, เครื่องมือโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงแอปพลิเคชันที่มี AI agents เป็นหัวใจหลัก
แม้หมวด AI จะคิดเป็นเพียง 0.67% ของมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมด แต่มูลค่ารวมกลับเติบโตขึ้นกว่า 4 เท่านับตั้งแต่ต้นปี 2023 ที่เริ่มต้นประมาณ 4.5 พันล้านดอลลาร์ และปัจจุบันทะยานสู่ระดับ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นอีกสัญญาณว่า AI ในคริปโตเริ่มมีบทบาทที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
หมวด AI นี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากศักยภาพในการแก้ปัญหาของระบบรวมศูนย์ เช่น การเซ็นเซอร์ การควบคุมโดยอัลกอริธึม และความไม่โปร่งใส โดยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้ AI สามารถทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานแบบเปิด เพิ่มความเป็นธรรมและลดการผูกขาด
Grayscale ยังชี้ถึงความเติบโตของโปรเจกต์ที่สร้างรายได้จริง เช่น Grass ที่ขายข้อมูลให้ห้องแล็บ AI หรือ Virtuals ที่นำ AI ไปใช้ในภาคธุรกิจจริง พร้อมยกตัวอย่างการผสานระหว่าง AI agents กับ stablecoins ที่ช่วยให้เกิดระบบชำระเงินขนาดเล็กแบบเรียลไทม์ และการทำธุรกรรมแบบโปรแกรมอัตโนมัติ
ปัจจัยสำคัญอีกด้านคือพัฒนาการด้านกฎระเบียบ เช่น ร่างกฎหมาย GENIUS stablecoin และการปฏิรูปโครงสร้างตลาด ซึ่งอาจเร่งให้สถาบันเข้ามาลงทุนในเทคโนโลยีนี้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ชุมชนคริปโตก็เริ่มมองว่า AI แบบกระจายศูนย์เป็นรากฐานใหม่ของโลกดิจิทัลที่ไม่ควรมองข้าม
การประกาศให้ AI เป็นหมวดแยกอย่างเป็นทางการในระบบนิเวศคริปโต เทียบได้กับวันที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ถูกบรรจุเป็นหมวดหลักในตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม นี่คือบทใหม่ของการรวมพลังระหว่างบล็อกเชนและปัญญาประดิษฐ์ ที่จะเปลี่ยนโฉมตลาดคริปโตทั้งในแง่เทคโนโลยีและเศรษฐกิจระดับโลก
ที่มา: Crypto-economy