เว็บผู้ให้บริการซื้อขายเหรียญ cryptocurrency ในประเทศเกาหลีใต้ได้ออกมาประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้งานใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายของรัฐบาลที่เพิ่งจะออกมาใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนอกเหนือจากการจำกัดกลุ่มผู้ใช้งานอย่างเฉพาะเจาะจงแล้ว ทางเว็บเทรดเหล่านี้ยังได้หยุดให้บริการ ‘บัญชีแบบ Virtual’ เพื่อให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับทางกฎหมายล่าสุด ที่ทางผู้สมัครจะต้องใช้ชื่อจริงอีกด้วย
คำสั่งจากรัฐบาล
ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ทำการประกาศเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับข้อกฎหมายในด้าน cryptocurrency โดยข้อแบบแรกนั้นเป็นกฎข้อบังคับใช้แบบฉุกเฉินตามที่ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานข่าวไป โดยหลังจากนั้นรายละเอียดเพิ่มเติมก็ถูกเผยขึ้นมาในภายหลัง
ปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดเว็บเทรดคริปโตในเกาหลีใต้นั้นถูกครอบครองโดยเว็บใหญ่ ๆ อย่าง Bithumb, Upbit, Coinone, และ Korbit ในขณะที่ Bithumb ครอบครองตำแหน่งเบอร์ 1 ของประเทศ แต่ล่าสุดมีรายงานว่าเว็บ Upbit ได้มีโวลลุ่มการซื้อขาย 24 ชั่วโมงที่มากกว่าในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยหลัก ๆ นั้นได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Kakao Corporation ที่เป็นผู้สร้างแอพแชทอันโด่งดังในประเทศนามว่า Kakao Talk
ภายหลังจากการประกาศนั้น เว็บทั้งสี่ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้งานใหม่ โดยหลัก ๆ นั้นจะเป็นการห้ามให้บริการแก่กลุ่มเด็ก ๆ และชาวต่างชาติ รวมถึงการหยุดให้บริการบัญชีเสมือนจริงด้วย บัญชีเหล่านี้ก่อนหน้านี้เคยถูกออกให้โดยธนาคารสำหรับเว็บเทรดเหล่านั้นเพื่อให้บริการลูกค้าที่มีความประสงค์จะทำการฝากเงินแบบไร้ตัวตน
เด็กและชาวต่างชาติ
เว็บ Upbit ถือเป็นเว็บแรกจากทั้งสี่ที่ออกมาประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหยุดให้บริการแก่เด็กที่อายุต่ำว่า 19 ปี (จากเดิม 14 ปี) โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะไม่สามารถใช้บริการของ Upbit ได้อีก โดยจะสามารถถอนเงินออกได้ภายในถึงช่วงสิ้นเดือนนี้ โดย
ภายหลังจากนั้น Bithumb ก็ได้ออกมาประกาศให้เป็นไปในทิศทางดังกล่าวเช่นกัน โดยจะหยุดให้บริการแก่เด็กอายุต่ำกว่า 19 ปีจากการใช้งาน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมนี้เป็นต้นไป โดยพวกเขายังได้เปลี่ยนคำพูดจากเดิมที่เขียนว่า “ถ้าหากคุณอายุต่ำกว่า 19 ปีคุณอาจจะไม่สามารถใช้งานได้” ไปเป็น “คุณจะไม่สามารถใช้งานได้” แทน นอกจากนี้บัญชีเสมือนจริงก็จะไม่สามารถเปิดใช้ได้โดยชาวต่างชาติอีกด้วย โดยตัวแทนจากเว็บเทรดกล่าวว่า
“การประกาศระวังล่าสุดจะไม่มีผลกระทบกับเรามากนัก เนื่องจากว่าเราให้ความระมัดระวังกับเด็กและนักลงทุนชาวต่างชาติอยู่แล้ว”
ในขณะเดียวกันเว็บ Coinone ก็ได้ออกประกาศที่ใกล้เคียงกัน โดยบอกว่าการซื้อขายนั้นจะถูกจำกัดไม่ให้บริการเฉพาะสำหรับ “ผู้ที่อายุยังน้อย และผู้ที่ไม่ได้ถือสัญชาติเกาหลีใต้แต่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศ”
หลาย ๆ ฝ่ายคาดว่าการออกมาประกาศดังกล่าวนั้นอาจส่งผลทำให้โวลลุ่มการซื้อขายในประเทศเกาหลีลดลง เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้นักลงทุนชาวต่างชาติส่วนใหญ่โดยเฉพาะจากประเทศจีนที่หนีไปซบอกตลาดเกาหลีใต้นั้นมีขึ้นเพราะรัฐบาลจีนสั่งแบนเว็บเทรดในประเทศ ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าหากเป็นเช่นนี้แล้ว นักลงทุนชาวต่างชาติจะย้ายไปตลาดไหนต่อ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น