บมจ. บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) เปิดเผยพอร์ตการลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท รับเทรนด์ขาขึ้นของตลาดคริปโทฯ พร้อมวางกลยุทธ์ปี 2567 มุ่งเน้นธุรกิจหลักทั้งงานที่ปรึกษาและสินทรัพย์ดิจิทัล ควบรวมธุรกิจ AI เพิ่มแผนลงทุนธุรกิจด้าน Carbon Credit ตอบโจทย์การแข่งขันในโลกยุคใหม่
นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดเผยว่า บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป มีผลการดำเนินงานประจำปี 2566 กำไรสุทธิ 376 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นบางส่วนที่ยังไม่สามารถรับรู้เป็นกำไรทางบัญชี โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจหลักในการเป็นที่ปรึกษา และจากมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นตามสภาพตลาดรวมไปถึงโปรเจกต์เหรียญ ICO ต่างๆที่ได้เข้าลงทุน
บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในการเติบโตระยะยาวของสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ blockchain จึงไม่ได้ทำธุรกรรมเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างมีนัยสำคัญใน Digital Asset Treasury (ตามรายงาน Note 6 ของงบการเงิน) เนื่องจากการลงทุนส่วนนี้เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อให้บริษัทก้าวสู่การเป็น Digital Asset Specialist และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าของบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการรับดีลที่ปรึกษา Digital Asset Integration และอื่นๆ รวมไปถึงการร่วมลงทุนแบบ Active ในเชิง Crypto VC Startup มาตั้งแต่ปี 2564 ดังนั้นเราจึงมี global network ที่แข็งแกร่งและมีความพร้อมเป็นอย่างมากในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลยิ่งขึ้นในปี 2024
ทั้งนี้บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินทรัพย์ ดิจิทัลที่ถือครองอยู่เพื่อให้นึกลงทุนสามารถศึกษาดังนี้
จำนวนเหรียญ (หน่วย) ที่ถือ ณ วันที่ 13 มีนาคม 2567 ตามเว็บไซต์ www.coinmarketcap.com ราคาปิด:
ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ Digital Asset Treasury Program เท่านั้น ซึ่งไม่รวมถึงการลงทุนในกองทุน Digital Asset Venture Capital และ 12 CryptoPunks NFTs
ปี 2567 BROOK มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยแบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจ ได้แก่
1. ธุรกิจที่ปรึกษา Traditional Finance และ Digital Asset มุ่งเน้นการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่มากกว่าเดิม ต่อยอดสู่การเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับ Digital Asset Integration รวมไปถึงการร่วมลงทุนในกลุ่ม Crypto Venture Capital และ Startup ซึ่งบริษัทได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564 ในอนาคต การหาจุด balance ระหว่าง Equity/Token/ NFT จะเป็นประเด็นใหม่ที่ผู้บริหารหลายองค์กรจะต้องเผชิญ เมื่อ transform บริษัทเข้าสู่ยุค WEB 3.0 ทาง Brook Digital Asset มีความพร้อมเป็นอย่างมากในการให้คำปรึกษาในด้านนี้
2. AI สำหรับคนไทย บริษัทได้พัฒนาเครื่องมือ AI (เว็บไซต์ brookreator.ai) ที่เหมาะกับคนไทยและบริษัทไทย เพื่อให้เกิดการใช้งานเป็นวงกว้างในประเทศ โดยได้พัฒนา BROOKREATOR รองรับการใช้งาน AI ต่างๆ และอยู่ระหว่างการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันได้มีการจัดคอร์สการศึกษาและเวิร์คชอป แนะนำเครื่องมือ AI กว่า 10 คอร์สในเว็บไซต์ brookergroup.com การจัดเวิร์คชอปในอนาคตจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่แก่บริษัท
โดยจะใช้เวลาพัฒนาต่อไปเพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตยิ่งขึ้น และในอนาคต บริษัทจะเริ่มดำเนินการ AI Advisory เพื่อเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า แบ่งหมวดเป็น Financial, Business Structure, Digital Asset และ AI Advisory
ทั้งนี้บริษัทได้เริ่มก้าวแรกสำหรับการเปิดตัวโปรเจกต์ BROOK AI ด้วยการร่วมจัดงาน Chula CEO Festival 2024 ร่วมกับทางชมรม Chula Entrepreneurship Organization เพื่อสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีของนิสิตจุฬาด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ ต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ถือเป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จในการจัดงานและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คนที่เข้าร่วมชม BROOK Exhibition ประกอบไปด้วย Brook AI QR Exhibition และบูธ AI Product ที่สามารถเปลี่ยนภาพสินค้าธรรมดาให้เป็นภาพสุด Exclusive ด้วย AI ตอบโจทย์ธุรกิจ SME ในยุคปัจจุบัน
3. Thailand x World Tourism NFT Community บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการ BROOK NFT ต่อ โดยตั้งเป้าให้เป็น Thailand x World Tourism NFT Community สร้างอีเวนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักสะสม NFT จากทั่วโลกสามารถนัดกันมาเที่ยวประเทศไทย โดยทางบริษัทจะร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับโรงแรม ร้านอาหาร บริษัทท่องเที่ยว และร้านค้าของคนไทย (Thai Designer Brands) เพื่อให้ประเทศไทยได้รับเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวของต่างชาติเข้ามาเพิ่ม
นอกจากนี้ ในปี 2024 บริษัทได้เข้าถือครอง NFT ที่หายากและมีความหรูหราที่สุดในโลกอย่าง CryptoPunks เป็นจำนวน 12 ตัวแล้ว จนกลายเป็น Punk Collector อันดับ Top 100 ของโลก ทางบริษัทจะให้ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำ Intellectual Property ของ CryptoPunks มาใช้งาน ผ่านช่องทาง social media ต่างๆในอนาคต
4. การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) บริษัทได้เร่งศึกษาและมีความสนใจลงทุนในด้าน Carbon Credits เป็นอย่างมากเนื่องจากภาคอุตสาหกรรมอาจได้รับผลกระทบเมื่อกฎหมายสิ่งแวดล้อมมีผลบังคับใช้ บริษัทได้เริ่มดำเนินการลงทุนพร้อมให้คำปรึกษาแก่บริษัทลูกค้าแล้ว เพื่อร่วมสร้าง Carbon Credit Ecosystem ผ่านการใช้เทคโนโลยี Decentralized Blockchain ด้วยการจับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์ทั้งในประเทศและระดับสากล
นายวริศ กล่าวสรุปว่าในปีนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลที่เริ่มกลับมาเป็นขาขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีที่ปีนี้อาจจะกลับมาเติบโตเป็น bull market รอบใหม่
ประกอบกับ AI ที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้งานได้จริงและต่อยอดสู่ AI Advisory นับเป็นการเพิ่มความครบวงจรให้ BROOK เป็นมากกว่าที่ปรึกษาทางการเงิน
นอกจากนี้ยังตอกย้ำด้วยโปรเจกต์ใหญ่เกี่ยวกับ NFT ที่บริษัทวางแผนไว้เพื่อช่วยกระตุ้นThailand x World Tourism NFT Community และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ ธุรกิจที่เป็น Global Trends เกี่ยวกับ ESG เรื่องนี้เราศึกษามาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพราะเราเชื่อว่าจะเป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่สร้างความยั่งยืนให้แก่ BROOK ได้ดี
ที่มา : moneyandbanking