<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทีซีจียื่นฟ้อง JKN เรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท เหตุเบี้ยวทำเหรียญคริปโต “MU COIN”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัล รัชดา นายจักรพันธ์ ปุณยปภา ผู้บริหาร บริษัท ทีซีจี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด พร้อมนายขจรยศ จะริยะมา และนายมงคล ศรีวิราช ทนายความ แถลงการยื่นฟ้อง บริษัท เจ เค เอ็น โกลบอล กรุ๊ป พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท กรณีเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะเกี่ยวกับโครงการ MU COIN ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ร่วมมือกัน ทั้งยังปิดบริษัทที่ถือหุ้นร่วมกันโดยไม่แจ้งต่อหุ้นส่วน ส่งผลให้พนักงานถูกเลิกจ้าง

นายจักรพันธ์ กล่าวอ้างว่า แรกเริ่มบริษัททีซีจี ดำเนินกิจการเกี่ยวกับอินฟลูเอ็นเซอร์เอเจนซี่ จนมาสนใจทำธุรกิจผลิตสินค้า และได้ลงทุนกับบริษัทเอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ ที่ผลิตเครื่องดื่ม โดยถือหุ้นร่วมกับบริษัทเจเคเอ็น ก่อนจะมาดำเนินกิจการสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งได้จดทะเบียนบริษัทที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยใช้มูลค่าทองคำเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งนี้เนื่องจากบริษัททีซีจี ต้องการสร้างแบรนด์ให้กับสกุลเงินตัวเอง จึงผุดโครงการมิสยูนิเวิร์ส คอยน์ หรือ MU COIN ที่ลงนามความร่วมมือกับบริษัทเจเคเอ็น ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่รูปแบบการระดมทุน ซึ่งตามแผนจะปล่อยสู่ตลาด 3,000 ล้านเหรียญ มูลค่า 50,000 ล้านบาท

แต่แล้วบริษัทเจเคเอ็น ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเรื่องโครงการ MU COIN โดยอ้างว่า “บริษัทเจเคเอ็น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสกุลเงินดิจิทัล สกุลเงินดังกล่าวเป็นของปลอม ขออย่าร่วมซื้อ” ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาการทำงานใด และพร้อมปล่อยสกุลเงินนี้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว

นายจักรพันธ์ กล่าวอ้างว่า บริษัททีซีจี จึงฟ้องร้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบริษัท เจเคเอ็น โกลบอลกรุ๊ป และนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท พร้อมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ศาลประทับตรารับฟ้อง เลขคดีดำที่ อ.2860/2566 มีนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 18 ธันวาคมนี้ โดยบริษัททีจีซี ยังเตรียมฟ้องร้องต่อ นางสาวพิมพ์อุมา น้องสาวนายจักรพงษ์ และเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Miss Universe Thailand, Hello Universe ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่เคยได้พูดคุยกับนายจักรพงษ์ แต่ได้รับจดหมายแจ้งมาว่าจะฟ้องร้องกลับ

นายจักรพันธ์ กล่าวอีกว่า คดีต่อมา ยังแจ้งความเพิ่มเติมต่อบริษัทเจเคเอ็น ที่ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในข้อหายักยอกทรัพย์ หลังทราบว่าโรงงานผลิตเครื่องดื่ม บริษัทเอ็มเอ็น ที่เป็นผู้ถือหุ้นร่วมกันได้ปิดตัวลงและขนย้ายทรัพย์สินบางส่วนออกโดยไม่แจ้งผู้ถือหุ้นให้ทราบ จนทำให้พนักงานถูกเลิกจ้าง

หลังจากนี้จะร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) เพื่อให้ตรวจสอบการบริหารงานของบริษัทเจเคเอ็นที่ขอยื่นฟื้นฟูกิจการอยู่นั้น สามารถปิดบริษัทได้หรือไม่ รวมถึงยังไม่ทราบว่าการดำเนินโครงการเงินดิจิตัลที่ผ่านมานั้น ได้ผ่านมติบอร์ดบริษัทเจเคเอ็นหรือไม่ และไม่ทราบว่าได้แจ้งต่อ กลต.ถึงการทำธุรกิจนี้หรือไม่

ที่มา : มติชน