นับตั้งแต่ Bitcoin Spot ETF ได้มีการเปิดตัว ปริมาณเหรียญบน Miner reserves ก็ดูเหมือนว่าจะมีการไหลออกอย่างต่อเนื่อง จนแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021
ซึ่งล่าสุด นักวิเคราะห์ของ Bitfinex ได้เปิดเผยว่าแม้จะมีเงินทุนหลั่งไหลเข้ามายังกองทุน ETF มากมาย แต่ราคาก็ไม่ได้มีการปรับตัวขึ้น คาดว่ามีสาเหตุมาจากการที่นักขุดยังคงทยอยเทขาย Bitcoin ในมือกันอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงข้อมูลจาก CryptoQuant
ภาพ : กราฟปริมาณ Bitcoin ใน Miner Reserve
ขณะที่รายงานของ Bitfinex อ้างถึงข้อมูลของ Glassnode ที่พบการโอนเหรียญ BTC มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เข้ามายังกระดานเทรดในวันที่ 12 มกราคม ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากการอนุมัติ Bitcoin ETF
การที่คลังของนักขุดมีเหรียญไหลออกมากถึงขนาดนี้ส่งสัญญาณว่า เหล่านักขุดกำลังต้องการเงินทุนจำนวนมาก ซึ่งอาจจะเป็นการขายเหรียญเพื่ออัปเกรดเครื่องขุด หรือถอนตัวออกจากอุตสาหกรรม เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนที่จะถึงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ Bitcoin Halving เริ่มต้นขึ้น
นั่นหมายความว่านักขุดจะได้ผลตอบแทนจาก Bitcoin น้อยลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปี และจะส่งผลลกระทบต่อนักขุดเป็นอย่างมากโดยเฉพาะนักขุดรายย่อย ซึ่งทำให้จะเหลือแค่บริษัทขุดเหมืองรายใหญ่เท่านั้นที่ยังคงอยู่รอดในสนามรบแห่งนี้ต่อไป
Matthew Sigel หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck ระบุว่า ในภาพรวมจะเห็นได้ว่ามีการเทขายเหรียญจำนวนมากจากนักขุด แต่หากเจาะลึกลงไปจะพบว่า จำนวนการขายเหรียญนั้นมีความสัมพันธ์กับต้นทุนที่ใช้ในการขุด ตัวอย่างเช่น CleanSpark (CLSK), Riot (RIOT) และ Cipher Mining (CIFR) มีการขายเหรียญที่น้อยเนื่องจากมีต้นทุนที่ใช้ต่ำกว่า ขณะเดียวกัน Argo Blockchain (ARBK) และ TeraWulf (WULF) กลับเทขายเหรียญเป็นจำนวนมากแทบจะเทียบเท่ากับจำนวนที่ขุดได้
แน่นอนว่าการเทขายจำนวนมากนี้ได้สร้างแรงกดดันให้กับราคา Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตอนนี้ราคา Bitcoin ก็ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับราคา 44,000 ดอลลาร์ได้ และมีการซื้อขายในลักษณะไซด์เวย์อยู่ที่ 42,000-43,000 ดอลลาร์ในขณะนี้
ที่มา : Coindesk