บริษัท Fidelity ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ดูแลสินทรัพย์มูลค่ากว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ได้เป็นบริษัทล่าสุดที่ยื่นขออนุมัติกองทุน Ethereum ETF
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท Fidelity ได้ยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ SEC ของสหรัฐอเมริกา โดยได้ขอยื่นจดทะเบียน Ethereum Fund บนกระดานเทรด Cboe BZX โดยในเอกสารระบุว่า
“ตามคำชี้แจงการจดทะเบียน หุ้นแต่ละหุ้นจะเคลื่อนไหวเหมือนสินทรัพย์ในกองทุน Trust โดยทรัพย์สินของกองทุน Trust จะประกอบด้วย Ethereum ที่ถือโดย Custodian ในนามของกองทุน Trust”
เอกสารดังกล่าวประกาศว่าพลเมืองของสหรัฐอเมริกาจะได้รับความเสี่ยงที่น้อยลงในการเข้าถึง Ethereum
“นักลงทุนรายย่อยในสหรัฐฯ ยังขาดการควบคุมจากสหรัฐฯ โดยสิ่งนี้จะช่วยให้พลเมืองของสหรัฐฯ เข้าถึง Ethereum ได้”
นอกจากนี้ยังแย้งว่า วิธีการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบันนั้นมีความเสี่ยงเกี่ยวกับคู่สัญญา ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย และความเสี่ยงทางเทคนิค
ในขณะเดียวกันก็มีการตั้งข้อสังเกตว่านักลงทุนทั่วยุโรปสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์การซื้อขายต่าง ๆ ที่มีการควบคุมได้ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงสินทรัพย์คริปโตหลากหลายชนิดได้อย่างปลอดภัย
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา สื่อ Cointelegraph รายงานว่า กองทุน Bitcoin ETF แรกของยุโรปที่มีชื่อว่า Jacobi Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติให้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Euronext Amsterdam
นอกจากนี้ ในเอกสารยังระบุว่า หากมีกองทุน Ethereum ETF จะช่วยให้พลเมืองสหรัฐฯ ลดความเสี่ยงจากการล้มละลายของบริษัทคริปโต เช่น บริษัท FTX, Celsius Network, และ BlockFi
“หาก Spot ETH ETF พร้อมใช้งาน ก็มีแนวโน้มว่าส่วนหนึ่งของเงินทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จะอยู่ในบัญชีโบรกเกอร์หลักทรัพย์ของนักลงทุนในสหรัฐฯ”
การยื่นขออนุมัติของบริษัท Fidelity เกิดขึ้นหลังจากบริษัท BlackRock ยื่นขอเปิดกองทุน Ethereum ETF อย่างเป็นทางการกับทาง SEC เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท BlackRock ได้ลงทะเบียนกองทุน iShares Ethereum Trust กับทางรัฐเดลาแวร์ หลังจากยื่นคำขอ Bitcoin ETF
บริษัท Fidelity เป็นบริษัทแห่งที่ 7 ได้ที่ยื่นขอเปิดกองทุน Ethereum ETF ในบรรดาบริษัทต่าง ๆ เช่น VanEck, 21Shares & ARK, Hashdex, Grayscale และ Invesco & Galaxy
Source: Cointelegraph