วันนี้ถือว่าเป็นวันครบรอบ 8 ปีการเปิดตัว mainnet ของ Ethereum ในช่วงหลายปีนับตั้งแต่เปิดตัว Ethereum ได้เติบโตขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
Ethereum Foundation ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลการพัฒนาเครือข่ายอยู่เบื้องหลังได้มีการวางโร้ดแมพสำหรับอนาคตของ Ethereum โดยมุ่งเน้นไปที่สี่เป้าหมายหลักคือ การลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม การส่งเสริมความปลอดภัย
การปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และทำให้มั่นใจว่า Ethereum จะมีอายุยืนยาว
หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Ethereum เผชิญอยู่ในปัจจุบันคือ ปัญหาการทำธุรกรรมที่มีต้นทุนค่าธรรมเนียมราคาแพง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ปัญหาคอขวดของเครือข่าย ด้วยเหตุนี้ Ethereum Foundation จึงพยายามมองหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ รวมถึงการพัฒนาโซลูชัน Proto-Danksharding และ ZkEVM
วิธีแก้ปัญหาของ Proto-Danksharding จะช่วยให้การทำธุรกรรมในเครือข่ายมีราคาถูกมากขึ้น Ethereum โดยวิธีการทำงานของมันคือการทำให้ rollups (วิธีหนึ่งในการทำธุรกรรมของ Ethereum) ใช้ temporary data “blobs” (ข้อมูลชั่วคราว) ซึ่งจะถูกลบทิ้งเมื่อข้อมูลเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
ในขณะที่โซลูชัน Danksharding ตัวสมบรูณ์จะเข้ามาช่วยลดค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมบนเครือข่าย L2 ให้ถูกมากยิ่งขึ้นไปในอนาคต
นอกจากนี้แล้ว Ethereum Foundation ยังได้สำรวจศักยภาพของ Zero-Knowledge Ethereum Virtual Machines (ZkEVMs) โดยหัวใจสำคัญคือ การปรับปรุงโค้ดเบสของ Ethereum Virtual Machine (EVM) ให้มีความคล่องตัว ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้การพัฒนาสิ่งต่าง ๆ บน Ethereum ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่มันยังลดความเสี่ยงจากข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
สุดท้ายนี้ Ethereum Foundation มุ่งมั่นที่จะทำให้เครือข่ายมีอายุยืนยาว ซึ่งรวมถึงการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของควอนตัมคอมพิวเจอร์ ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อเครือข่าย Ethereum ในอนาคต
8 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดสำหรับ Ethereum เครือข่ายแห่งนี้ได้เดินทางมายาวไกลพร้อมด้วยโร้ดแมพที่ชัดเจนของ Ethereum Foundation และคาดว่าสิ่งนี้จะช่วยทำให้ Ethereum อยู่ในตำแหน่งผู้เล่นชั้นนำที่จะเติบโตขึ้นต่อไปในอีกหลายปี
- ที่มา : beincrypto
- ที่มารูปภาพ : dailyhodl