<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple โอนย้าย 50 ล้าน XRP เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี: สัญญาณบวกหรือลบสำหรับ XRP ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

 เกิดเหตุการณ์สำคัญในวงการคริปโตเมื่อ Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple ได้ทำการโอนย้าย XRP จำนวนมหาศาลถึง 50 ล้าน XRP ออกจากกระเป๋าเงินส่วนตัว ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่สร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเครือข่าย XRP (XRPL) และได้รับการจัดสรร XRP จำนวนมากตั้งแต่ปี 2013  

ที่น่าสนใจคือ ธุรกรรมล่าสุดนี้ถือเป็นการโอนเหรียญออกครั้งแรกจากกระเป๋าเงินใบนี้นับตั้งแต่มีการสร้างขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระเป๋าเงินนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงเริ่มต้นของ XRPL และได้รับเงินทุนจาก XRP กว่า 500 ล้านในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดสรร XRP ให้กับประธานบริษัท Ripple

รายละเอียดการทำธุรกรรม XRP

ข้อมูลบนเครือข่ายยืนยันว่า ธุรกรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน เวลา 23:17 น. UTC ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญ XRP มูลค่า 29.12 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับจำนวน 50 ล้าน XRP ในขณะนั้น ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ สินทรัพย์ดังกล่าวถูกโอนย้ายไปยังที่อยู่ rao…gzS ซึ่งเป็นที่อยู่ที่ไม่ระบุชื่อ ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการโอนเหรียญในครั้งนี้ 

เมื่อพิจารณาจากลักษณะของธุรกรรม และความจริงที่ว่า กระเป๋าเงินนี้เก็บโทเค็นเอาไว้ตั้งแต่ในช่วงเริ่มก่อตั้ง จึงทำให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการแฮ็ก แต่อย่างไรก็ตาม Crypto Basic สามารถยืนยันได้ว่า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเป็นไปได้

ก่อนหน้านี้ มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่คล้ายกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระเป๋าเงินของ Larsen อีกใบหนึ่ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์   ทั้งนี้การโอนเหล่านี้เป็นผลมาจากเหตุการณ์การแฮ็กที่ได้ขโมย XRP หลายล้านดอลลาร์ ออกจากกระเป๋าเงินของประธาน Ripple ตามที่ The Crypto Basic ยืนยัน ซึ่งแฮ็กเกอร์สามารถขโมย XRP ไปได้กว่า 212 ล้าน XRP

เป้าหมายของการโอนเหรียญ

ตามข้อมูลบนบล็อกเชน แสดงให้เห็นว่า การเคลื่อนย้ายเงินทุนล่าสุด อาจได้รับอนุญาตจาก Chris Larsen เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระเป๋าเงินที่โอนเหรียญดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบในการเปิดใช้งานกระเป๋าเงินของผู้ที่รับเงิน rao…gzS 

หลังจากเปิดใช้งานที่อยู่กระเป๋าเงินด้วยการโอนจำนวน 10 XRP เมื่อเวลา 23:11 น. กระเป๋าเงิน Larsen ก็โอนย้าย XRP จำนวน 50 ล้าน XRP ไปยังที่อยู่นั้น ซึ่งที่อยู่ของผู้รับ ก็ได้ถือครองโทเค็นเอาไว้ จึงช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการถูกโจมตี

เมื่อความเป็นไปได้ของการแฮ็กหมดความกังวลไปแล้ว วัตถุประสงค์ของการทำธุรกรรมยังคงทำให้เกิดการคาดเดาต่าง ๆ มากมายภายในชุมชนคริปโต ซึ่งมีคนในชุมชนคริปโตบางคน กล่าวว่าเงินจำนวนดังกล่าวอาจนำไปใช้สนับสนุนแคมเปญของกมลา แฮร์ริส อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงเป็นเพียงการคาดเดา

ที่มา : thecryptobasic