บริษัท Lejilex สตาร์ทอัพด้านคริปโตในรัฐเท็กซัส ได้ออกมากล่าวหาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ว่าพยายามใช้อำนาจควบคุมเกินขอบเขตในวงการคริปโต
คำกล่าวหาดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากการสู้คดีกันในศาลกลางของเท็กซัสเกี่ยวกับประเด็นการจัดประเภทคริปโต โดย Lejilex ซึ่งเป็นสมาชิกของ Crypto Freedom Alliance of Texas ได้ยื่นคำชี้แจงเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมาว่าพวกเขาให้บริการธุรกรรมคริปโตไม่ใช่การขายหลักทรัพย์
“การที่ SEC มองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลมีความแตกต่างกันนั้นไม่ใช่เหตุผลที่ SEC จะยึดครองอำนาจในการกำกับดูแลอย่างมหาศาล”
โดยบริษัท Lejilex ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาและมีแผนเปิดกระดานเทรดคริปโตภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทต้องเผชิญปัญหาคดีกับ SEC และต้องการให้ศาลตัดสินล่วงหน้าว่าธุรกิจของพวกเขาจะไม่ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์
ทว่าทาง SEC โต้แย้งว่าการดำเนินการของ Lejilex เป็นการพยายามให้ศาลตัดสินว่าสินทรัพย์คริปโตไม่ควรจัดอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยเรื่องสถานะทางกฎหมายของ Lejilex โดยระบุว่าบริษัทยังไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ จาก SEC เลย
สิ่งที่น่าสนใจคือคดีดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลัง Lejilex ได้ยื่นขอให้ศาลระบุว่าการลิสต์โทเค็นที่มีอยู่แล้วซึ่งไม่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ โดยผู้ร่วมก่อตั้ง Mike Wawszczak กล่าวกับ Reuters ว่า “เราต้องการเริ่มธุรกิจของเราแทนที่จะมาขึ้นศาล แต่เราก็ไม่มีทางเลือก”
ในขณะที่ Paul Grewal หัวหน้าเจ้าหน้าที่กฎหมายของ Coinbase แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า SEC มีท่าทีไม่สอดคล้องกันในกรณีนี้ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วหลัง SEC ได้ฟ้อง Coinbase โดยกล่าวหาว่าทำการขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
นอกจากนี้ ผู้บริหารและทนายของ Ripple ยังออกมาตำหนิ SEC ในกรณีที่องค์กรนี้พยายามอุทธรณ์คำตัดสินที่ระบุว่าการขาย XRP ในตลาดรองไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ และ John Deaton ผู้สมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ฝ่ายพรรครีพับลิกันกล่าวว่า SEC กำลังดำเนินแผนต่อต้านคริปโตอย่างเต็มรูปแบบ จึงเป็นการสิ้นเปลืองเงินภาษีของประชาชน
ที่มา: Cointelegraph