Bitcoin Dominance หรือสัดส่วนมูลค่าตลาดของ Bitcoin เทียบกับมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมด กลับมาพุ่งทะลุ 60% ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขายครั้งใหญ่เพื่อตอบสนองต่อนโยบายภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ ได้แก่ ภาษี 25% สำหรับการนำเข้าสินค้าจากแคนาดา, 25% สำหรับสินค้าทั้งหมดจากเม็กซิโก และ 10% สำหรับสินค้าจากจีน ทำให้ประเทศเหล่านี้ตอบโต้ด้วยการออกภาษีสวนกลับ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2025 นักลงทุนจึงรีบเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯแทน
มาตรการภาษีใหม่ของทรัมป์ จุดชนวนตลาดแดงเดือด
นักเทรดและนักวิเคราะห์ Van Nuener เตือนว่าตลาดคริปโตอาจปรับตัวลงอีกครั้งหลังตลาดฟิวเจอร์สสหรัฐฯ เปิดทำการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์
“ตลาดฟิวเจอร์สอาจเปิดตลาดในแดนลบ และนั่นอาจทำให้ตลาดคริปโตปรับตัวลงตาม” Nuener โพสต์เตือนผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย
ในเดือนธันวาคม 2024 Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX เคยคาดการณ์ว่า ตลาดคริปโตอาจเผชิญแรงขายหนักในช่วงพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยให้เหตุผลว่า แม้ทรัมป์จะสนับสนุนคริปโต แต่การออกกฎหมายที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมนี้ต้องใช้เวลา และไม่ได้เกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน
Ryan Lee หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Bitget Research คาดการณ์ว่า Bitcoin อาจย่อตัวลงมาแถวระดับ $95,000 ในระยะสั้น โดยระบุว่า ตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตาคือข้อมูลแรงงาน และนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางราคาของ Bitcoin ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า
ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ 95,187 ลดลง 6.08% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ที่มา:cointelegraph