ในตลาดไซด์เวย์ของคริปโต การใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ที่แม่นยำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะราคามักแกว่งในกรอบแคบ ๆ และทำให้ยากต่อการทำกำไร ซึ่งนักเทรดส่วนใหญ่ มักใช้ Bollinger Bands หรือ RSI แต่ยังมีอินดิเคเตอร์อีกหลายตัวที่เทพกว่านั้น
ในบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชน จะมาแนะนำ 5 อินดิเคเตอร์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่เหมาะมากที่จะใช้กับช่วงตลาดคริปโตไซด์เวย์
Keltner Channel (KC) – อัปเกรด Bollinger Bands ให้เทพขึ้น!
ที่มาภาพ : stockmaniacs
ใครที่เคยใช้ Bollinger Bands แล้วรู้สึกโดนหลอกบ่อย ลองเปลี่ยนมาใช้ Keltner Channel ดู เพราะมันใช้ค่า Average True Range (ATR) มาปรับความกว้างของช่อง ทำให้จับจังหวะได้แม่นขึ้น
วิธีใช้ในตลาดไซด์เวย์
- ถ้าราคาขึ้นไปชนขอบบน ก็มีโอกาสปรับลง (ให้เข้า Short ได้)
- ถ้าราคาลงมาชนขอบล่าง ก็มีโอกาสดีดขึ้น (ให้เข้า Long ได้)
- ใช้เส้นกลางเป็นแนวรับแนวต้าน เพื่อหาจังหวะเข้าออกที่แม่นขึ้น
ข้อดีของอินดิเคเตอร์นี้ ลดสัญญาณหลอกที่มักเกิดกับ Bollinger Bands ทำให้ตัดสินใจได้แม่นมากกว่า
Donchian Channel (DC) – หาจุด Breakout และ Fakeout ได้แม่นมาก
ที่มาภาพ : mql5
Donchian Channel เป็นอินดิเคเตอร์ยอดนิยมของนักเทรดสายเทรนด์ที่ตามล่าหากำไรมักจะใช้ แต่ในตลาดไซด์เวย์ก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาราคาติดอยู่ในกรอบแคบๆ
วิธีใช้ในตลาดไซด์เวย์
- ถ้าราคาไปชนขอบบนของ DC แล้วไม่ทะลุ ให้เข้า Short ได้เลย
- ถ้าราคาลงไปชนขอบล่างของ DC แล้วไม่หลุด ให้เข้า Long ได้เลย
- ถ้าราคาทะลุกรอบ พร้อมวอลุ่มสูง อาจเป็น Breakout จริง
- ถ้าทะลุแบบเบา ๆ ไม่มีวอลุ่ม อาจเป็น Fakeout ให้ระวังโดนหลอก
ข้อดีของอินดิเคเตอร์นี้ ช่วยบอกแนวรับแนวต้านที่แม่นยำ และลดโอกาสโดนหลอกจาก Fakeout
Choppiness Index (CHOP) – ตัวเช็คว่า ตลาดไซด์เวย์จริงไหม?
ที่มาภาพ : stockmaniacs
บางครั้งเราคิดว่า ตลาดไซด์เวย์ แต่จริง ๆ แล้ว มันแค่สะสมพลัง เพื่อจะพุ่งขึ้นหรือร่วงลง ซึ่ง Choppiness Index ช่วยให้เรารู้ว่า ตลาดเป็นไซด์เวย์จริง หรือแค่หลอก
วิธีใช้
- ถ้า CHOP สูง (> 61.8) คือ ตลาดไซด์เวย์จริง เทรดตามกรอบได้ยาว ๆ
- ถ้า CHOP ต่ำ (< 38.2) คือ ตลาดเริ่มมีแนวโน้ม อาจเกิดการ Breakout
ข้อดีของอินดิเคเตอร์นี้ กันไม่ให้เราเข้าออเดอร์ผิดจังหวะ ตอนตลาดกำลังจะเปลี่ยนเทรนด์
VPVR (Volume Profile Visible Range) – เครื่องมือวิเคราะห์วอลุ่มที่โปรเทรดเดอร์ใช้
ที่มาภาพ : whaleportal
ถ้าอยากรู้ว่าตรงไหนเป็นแนวรับแนวต้านแบบแม่นยำ VPVR คือคำตอบ เพราะเป็นเครื่องมือที่แสดงให้เห็นว่า ตรงไหนมี วอลุ่มซื้อขายเยอะที่สุด ซึ่งมักจะเป็นโซนที่ราคามักจะเด้งกลับ
วิธีใช้
- จุดที่มีวอลุ่มเยอะสุด (Point of Control – POC) ถือเป็นแนวรับแนวต้านสำคัญ
- ถ้าราคามาแถว ๆ POC แล้วเด้ง ให้เปิดออเดอร์ตามเทรนด์
- ถ้าราคาทะลุโซนที่มีวอลุ่มต่ำ อาจเป็น Breakout จริง
ข้อดีของอินดิเคเตอร์นี้ ใช้ดูโซนซื้อขายของรายใหญ่ได้ ลดโอกาสโดนลากราคาง่าย ๆ
QQE (Quantitative Qualitative Estimation) – RSI เวอร์ชันเทพขึ้น
ที่มาภาพ : market-bulls
QQE คือ เวอร์ชันอัปเกรดของ RSI ที่ช่วยลดสัญญาณหลอก และให้สัญญาณซื้อขายที่แม่นยำมากกว่า ซึ่งเหมาะมากสำหรับตลาดไซด์เวย์
วิธีใช้
- ถ้า QQE ต่ำกว่า 30 แสดงว่า ตลาด Oversold มีโอกาสดีดขึ้น (Long)
- ถ้า QQE สูงกว่า 70 แสดงว่า ตลาด Overbought มีโอกาสร่วง (Short)
- ใช้คู่กับ Keltner Channel หรือ VPVR จะช่วยกรองสัญญาณให้แม่นขึ้น
ข้อดีของอินดิเคเตอร์นี้ ให้สัญญาณที่แม่นยำ น่าเชื่อถือกว่า RSI ธรรมดา
อินดิเคเตอร์ไหนเหมาะกับใคร?
เทคนิคเสริม ที่สามารถเอาไปใช้คู่กันให้โหดยิ่งขึ้น
- ใช้ CHOP กับ VPVR เพื่อเช็คว่า ตลาดไซด์เวย์จริง ประกอบกับ หาจุดเด้งจากวอลุ่ม
- ใช้ QQE กับ Keltner Channel เพื่อหา Overbought/Oversold แล้วเทรดตามกรอบ
- ใช้ Donchian Channel กับ VPVR เพื่อเช็ค Fakeout ก่อนเข้าเทรด
ทั้งนี้การใช้อินดิเคเตอร์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด จะช่วยให้นักเทรดสามารถอยู่รอดและทำกำไรในตลาดไซด์เวย์ได้ดียิ่งขึ้น