เมื่อเร็ว ๆ นี้ Michael Saylor ประธานบริษัท Strategy ได้รับเชิญให้ไปออกอากาศในรายการ “The Claman Countdown” ของสถานีโทรทัศน์ Fox Business โดยมีการกล่าวถึงในประเด็นของ Strategic Crypto Reserve
Saylor แสดงความคิดเห็นว่า Bitcoin เป็นรากฐานของเศรษฐกิจคริปโตทั้งหมด ซึ่งโดยธรรมชาติของตัวบิทคอยน์เองมีความเป็นกลาง มีการกระจายอำนาจที่สูง ไม่มีผู้ออกเหรียญ ทำให้เหมาะสมที่จะถูกจัดเก็บเป็นสินทรัพย์สำรองในระยาว ด้วยการที่พลังงานและเงินทุนกว่า 99% ล้วนแล้วแต่ไหลไปยังเครือข่าย Bitcoin
Saylor ระบุว่า Bitcoin เป็นทรัพย์สินในโลกไซเบอร์ ซึ่งตรรกะที่อยู่เบื้องหลัง Bitcoin Reserve ไม่ได้มีเพียงแค่การสะสม Bitcoin ไว้เฉย ๆ เท่านั้น แต่เป็นการ ที่คุณกำลังเข้าแข่งคันแย่งชิงสิทธิในการควบคุมเศรษฐกิจโลกไซเบอร์ เพราะเศรษฐกิจดิจิทัลจะใช้ประโยชน์จากบิทคอยน์เป็นทุน ซึ่งสหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องจับจองพื้นที่ในส่วนนี้ก่อนคู่แข่งจะทำสำเร็จและขึ้นเป็นจ้าวแห่งโลกการเงินดิจิทัลแทน
ในมุมมองของ Saylor คู่แข่งที่เขาหมายตาประกอบไปด้วยมหาอำนาจทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย, จีน, ยุโรป หรือแม้กระทั่ง แอฟริกัน และ อเมริกาใต้
Saylor กล่าวในรายการว่าตัวเขาเองรับรู้ถึงประโยชน์และหน้าที่ของ stablecoin และ หลักทรัพย์ที่ได้มีการแปลงเป็นโทเคน ทว่าในความเห็นของเขา Bitcoin ยังคงเป็นตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียวที่จะถูกนำมาใช้เป็น Crypto Reserve
อย่างไรก็ตามการประกาศของทรัมป์ Crypto Strategic Reserve จะประกอบไปด้วยสินทรัพย์อื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin เช่น XRP ที่ตัวของ Saylor จัดหมวดหมู่อยู่ในประเภทโทเคนดิจิทัลที่มีผู้ออกเหรียญ และมีการกำหนดคุณประโยชน์ไว้แต่แรก ซึ่งเขาก็คิดว่ามันน่าสนใจ แต่ก็ไม่มากพอที่จะนำมาจัดเก็บไว้ใน Reserve
อย่างไรก็ตาม Saylor กล่าวว่าหากเขาได้รับโอกาสในการเป็นที่ปรึกษาฝ่ายนิติบัญญัติ เขาจะเสนอให้มีการสร้างกฏแยกระหว่าง สินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัล (Bitcoin) สกุลเงินดิจิทัล และ หลักทรัพย์ดิจิทัล ให้มีความชัดเจน
Saylor ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ออกมาสนับสนุนในเรื่องของการจัดเก็บ Bitcoin แต่เพียงอย่างเดียว เพราะก่อนหน้านี้ทั้งฝาแฝด Winklevoss ผู้ก่อตั้ง Gemini และ Brian Armstrong ต่างก็อยากให้รัฐบาลจัดเก็บแต่เพียง Bitcoin อย่างเดียวเช่นกัน
ที่มา : Crypto Briefing