หลังจาก Bitcoin พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 111,970 ดอลลาร์ สถานการณ์กลับพลิกผันในวันศุกร์ เมื่อกลุ่มนักเทรดขา Long ต้องเผชิญกับการเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดการขาดทุนมหาศาล
นักเทรด Long เจอศึกหนัก สูญเงินกว่า 125 ล้านดอลลาร์
ข้อมูล On-chain แสดงให้เห็นว่า มีนักเทรดพอร์ตแตกจากการเปิด Long มูลค่ากว่า 125.2 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่นักเทรด Short สูญเงินเพียง 30 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่ฝั่ง Short ต้องเผชิญกับการพอร์ตแตกครั้งใหญ่ในช่วงที่ราคา BTC พุ่งทำ ATH
การเทขายครั้งนี้เป็นผลมาจากการทำกำไรของนักลงทุน ทำให้ราคาร่วงลงต่ำกว่า 108,000 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติหลังจากราคาทำจุดสูงสุดใหม่
เงินไหลออกจากตลาดกว่า 632 ล้านดอลลาร์
ในวันเดียวกัน มีเงินไหลออกจากตลาด Bitcoin มหาศาลถึง 632.2 ล้านดอลลาร์ นับเป็นการไหลออกสูงสุดอันดับ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ และเป็นการเทขายครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ BTC แตะระดับ 111,970 ดอลลาร์
Open Interest ของ Bitcoin เพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงการกู้ยืมเงินจำนวนมากในตลาด BTC ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ความเสี่ยงจากสงครามการค้าอาจกระทบตลาด
แม้การย่อตัวหลังทำ ATH จะเป็นเรื่องปกติ แต่ตลาดก็ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะรายงานล่าสุดที่ว่าประธานาธิบดี Trump อาจเริ่มสงครามภาษีศุลกากรกับสหภาพยุโรปในเดือนมิถุนายน โดยอาจขึ้นภาษีถึง 50%
อย่างไรก็ตาม Bitcoin ได้เคลื่อนไหวแยกตัวจาก S&P500 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า Bitcoin อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากความวิตกกังวลเรื่องสงครามภาษี
สถาบันยังคงเดินหน้าลงทุน
ในทางกลับกัน สถาบันการเงินยังคงแสดงความเชื่อมั่นต่อ Bitcoin โดยเมื่อวันพฤหัสบดีมีเงินไหลเข้า Bitcoin ETF สูงถึง 934 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการไหลเข้าสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
ข้อมูลล่าสุดยังเผยว่า Demand จากเหล่าวาฬยังคงเพิ่มขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนรายใหญ่ยังมองแนวโน้ม Bitcoin ในเชิงบวก
Source: TheCoinRepublic