วงการสินทรัพย์ดิจิทัลในตะวันออกกลางมีเรื่องน่าตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของดูไบ (DFSA) ได้อนุมัติกองทุน QCD Money Market Fund (QCDT) อย่างเป็นทางการ นับเป็นกองทุนรวมตลาดเงินในรูปแบบโทเคน (Tokenized) กองแรกที่ได้รับการยอมรับในศูนย์กลางการเงินนานาชาติดูไบ (DIFC) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำว่าภูมิภาคนี้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมการเงินยุคใหม่
การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของธนาคารแห่งชาติกาตาร์ (QNB) ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางและแอฟริกา และ DMZ Finance ซึ่งเป็นสองบริษัทหลักที่กำกับดูแลกองทุนนี้ โดย QNB จะเข้ามาดูแลฝั่งกลยุทธ์การลงทุน ในขณะที่ DMZ Finance จะรับผิดชอบด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างเบื้องหลังทั้งหมด
กองทุน QCDT ถูกจัดตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายคือการนำสินทรัพย์การเงินดั้งเดิมที่มีความมั่นคงสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มาทำให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลบนบล็อกเชน (On-chain) เพื่อให้สถาบันการเงินต่างๆ นำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น เช่น ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน, ใช้หนุนหลังสเตเบิลคอยน์ หรือเป็นเงินทุนสำรองสำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต
การอนุมัติครั้งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันว่าดูไบและตะวันออกกลางกำลังกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในโลกคริปโต โดยเฉพาะในตลาด ‘Tokenization’ หรือการแปลงสินทรัพย์ในโลกจริงให้กลายเป็นโทเคนดิจิทัล ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างมหาศาล อ้างอิงจากรายงานของ Ripple และ BCG คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาด ‘Tokenization’ ทั่วโลกอาจพุ่งสูงถึง 18.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2576
นายซิลาส ลี ซีอีโอของ QNB สิงคโปร์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “ตะวันออกกลางกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมการเงินของโลก การเปิดตัวกองทุน QCDT ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ QNB ในภูมิภาค แต่ยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแห่งอนาคต”
นอกจากนี้ ด้านนายนาธาน มา ผู้ร่วมก่อตั้ง DMZ Finance ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า “การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคนไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป แต่มันคือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับโลกการเงินยุคหน้า เป้าหมายของเราคือการเป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างตลาดการเงินดั้งเดิมเข้ากับโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล”
ที่มา: coindesk

