<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Remittix เปิดตัวระบบ On-Ramp รองรับ XRP เสริมศักยภาพการโอนเงินข้ามประเทศ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นิวยอร์ก, 14 กรกฎาคม 2025 – Remittix (RTX) แพลตฟอร์มด้านการเงินดิจิทัล ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับ XRP โดยผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนเหรียญ XRP ไปยังสกุลเงิน fiat ได้โดยตรงผ่านกระเป๋าเงินแบบ cross-chain ของตน ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันการใช้งานคริปโตในชีวิตประจำวัน

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ XRP กำลังได้รับแรงสนับสนุนจากตลาด ทั้งในแง่ของการยอมรับจากสถาบันและการทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระเงินระดับโลก การที่ Remittix ผสาน XRP เข้ากับแพลตฟอร์มของตน จึงช่วยเพิ่มความเร็ว ลดต้นทุน และขยายขอบเขตการเข้าถึงธุรกรรมได้ในระดับสากล

Remittix เคยให้บริการกับเหรียญหลักอย่าง ETH, BTC, DOGE และ SOL มาแล้ว การเพิ่ม XRP เข้าระบบ จึงเป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มองหาเหรียญค่าธรรมเนียมต่ำและใช้งานได้จริง โดยฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดทางให้ผู้ใช้งานสามารถแปลงคริปโตเป็นเงินสด ฝากเข้าธนาคาร และใช้งานแบบ non-custodial ได้ทันที พร้อมเตรียมเปิดตัวกระเป๋า Remittix Wallet เวอร์ชัน Beta ภายในไตรมาส 3 นี้

ในด้านการเติบโต โปรเจกต์ได้ขายโทเคน RTX ไปแล้วกว่า 550 ล้านเหรียญ และระดมทุนผ่าน presale ได้มากกว่า 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใกล้แตะเป้าหมาย soft cap ที่ 18 ล้านดอลลาร์ ด้วยราคาโทเคนปัจจุบันอยู่ที่ $0.0811 และโบนัสแจกฟรีสูงถึง 50% จึงได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนทั่วไปและนักวิเคราะห์ที่จัดให้ RTX เป็นหนึ่งใน presale ที่น่าจับตาที่สุดของปี 2025

เป้าหมายของ Remittix คือการเป็น Layer 2 ทางเลือกสำหรับ Ethereum ที่ตอบโจทย์การเงินยุคใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระบบธนาคารเข้าถึงยาก เช่น ละตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมยกระดับตัวเองเป็นเกตเวย์ระหว่างโลกคริปโตกับโลกการเงินแบบดั้งเดิม

ในช่วงที่ตลาดยังตั้งคำถามกับ exchange แบบ centralized และ XRP ยังคงเป็นหัวข้อร้อนแรงในแวดวงการเงิน Remittix เสนอทางเลือกที่ decentralized โปร่งใส และใช้งานได้จริง เป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงความสะดวกของคริปโตเข้ากับสภาพคล่องของระบบการเงินดั้งเดิมอย่างราบรื่น

Remittix จึงไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มเทคโนโลยีอีกหนึ่งตัวในตลาด แต่กำลังกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของยุคใหม่ ที่แสดงให้เห็นว่า คริปโตสามารถขับเคลื่อนการใช้งานจริงได้ในระดับโลก.

ที่มา : globenewswire