<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Nasdaq ยื่นเรื่องขอ ‘Staking’ ให้กองทุน Ether ETF ของ BlackRock! ปลดล็อกประตูสู่ ‘ผลตอบแทน’ สำหรับนักลงทุนสถาบัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในนามของ BlackRock เพื่อขอเพิ่มฟีเจอร์การ Staking เข้าไปในกองทุน iShares Ether ETF การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่อาจเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งสำคัญ โดยจะเปิดทางให้นักลงทุนสถาบันสามารถสร้าง “ผลตอบแทน” จากการถือครอง Ether ได้โดยตรงผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล

คำร้องขอแก้ไขกองทุน BlackRock iShares Ethereum ETF เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการ Staking ที่มา: คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC)

หากคำร้องดังกล่าวได้รับการอนุมัติ กองทุนจะสามารถนำเหรียญ Ether ที่ถือครองอยู่ไปใช้เป็นหลักประกันในกระบวนการฉันทามติแบบ Proof-of-Stake ของเครือข่าย Ethereum ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนในรูปแบบของ Staking Rewards ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน การยื่นเรื่องในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อเดือนพฤษภาคม SEC ได้ออกแนวทางที่ชัดเจน โดยระบุว่าผลตอบแทนที่ได้จากการ Staking นั้นถือเป็น “รายได้” (earned income) ไม่ใช่ “ธุรกรรมหลักทรัพย์” (securities transactions) ที่ต้องเสียภาษีกำไรจากการลงทุน (capital gains tax) แนวทางดังกล่าวได้เปิดประตูให้กับนักลงทุนสถาบันที่ต้องการสร้างรายได้หรือกระแสเงินสดจากสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi)

นาย Ray Youssef ซีอีโอของแอปพลิเคชันทางการเงิน NoOnes กล่าวกับ Cointelegraph ว่า “Ethereum เริ่มที่จะดูเหมือนสินทรัพย์ลูกผสมระหว่างหุ้นเทคโนโลยีและสกุลเงินดิจิทัล” และเสริมว่า “สิ่งนี้ดึงดูดนักกลยุทธ์ด้านการบริหารคลังที่มองหาอะไรที่มากกว่าแค่การเก็บสินทรัพย์ไว้เฉยๆ” ความสนใจจากฝั่งสถาบันนี้สะท้อนผ่านข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ได้เข้าซื้อ ETH เพิ่มเติมสำหรับคลังของตนเองถึง 540,000 ETH ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตัวชี้วัดการ Staking ของ ETH ที่มา: Dune

กระแสความต้องการ ETH ที่เพิ่มขึ้นยังเห็นได้จากปริมาณเหรียญที่ถูกนำไป Staking ซึ่งได้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุดจาก Dune ระบุว่ามี ETH ถูกนำไป Stake แล้วกว่า 36 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นกว่า 29% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด นอกจากนี้ กระแสเงินทุนยังได้หลั่งไหลเข้าสู่กองทุน Ether ETF อย่างแข็งแกร่งในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม หลังจากที่เคยชะลอตัวไปในช่วงต้นปี ข้อมูลจาก Farside Investors แสดงให้เห็นว่ามีเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน Ether ETF เป็นบวก 11 วันจาก 12 วันทำการล่าสุด โดยเฉพาะในวันพุธเพียงวันเดียวมีเงินไหลเข้าสูงกว่า 726 ล้านดอลลาร์ การยื่นขอเพิ่มฟีเจอร์ Staking ของ Nasdaq และ BlackRock ในครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำถึงแนวโน้มที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่กำลังมองหาช่องทางในการเข้ามามีส่วนร่วมกับระบบนิเวศของ Ethereum ในเชิงลึกและซับซ้อนยิ่งขึ้น

ที่มา: cointelegraph