กระเป๋าคริปโตแบบ Non-custodial ชั้นนำอย่าง Best Wallet (BEST) ได้รับการรับรอง ‘WalletConnect Certified’ อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ผลักดันให้ Best Wallet กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มระดับแนวหน้าของวงการ
การรับรองนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความโดดเด่นในด้านความปลอดภัย ประสบการณ์ผู้ใช้ และการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมด้านเทคโนโลยีและความน่าเชื่อถือในระยะยาว ท่ามกลางกระแสการเติบโตของคริปโตทั่วโลก
ปัจจุบัน ตลาดคริปโตกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยแรงผลักดันจากนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการผ่านกฎหมาย GENIUS Act และการเติบโตของสินทรัพย์ในโลกจริงที่ถูกแปลงเป็นโทเคน (RWA) ทำให้เงินทุนจำนวนมหาศาลจากภาคสถาบันไหลเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สถาบันการเงินดั้งเดิม (TradFi) ต้องเร่งปรับตัวเพื่อรองรับผู้ใช้ใหม่จำนวนมหาศาลที่ต้องการกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ทั้งปลอดภัยและใช้งานง่าย
Best Wallet ได้เตรียมความพร้อมด้วยต้นทุนธุรกรรมที่ต่ำ และฟีเจอร์ล้ำสมัยมากมาย เช่น ระบบคัดกรองโปรเจกต์, การทำธุรกรรมแบบใช้เหรียญใดจ่ายค่า Gas ก็ได้ (ในอนาคตเร็วๆ นี้) และเครื่องมือลงทุนแบบ DCA อัตโนมัติ ซึ่งตอบโจทย์นักลงทุนทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมือโปร
การได้รับตรารับรองจาก WalletConnect ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตมากกว่า 10 ล้านเซสชันต่อเดือน ทำให้ Best Wallet ได้รับการจัดอันดับอยู่ในหมวดหมู่ “WalletGuide” ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ ร่วมกับกระเป๋าเงินชั้นนำระดับโลกอย่าง Trust Wallet, MetaMask, Binance Wallet และ Uniswap Wallet ถือเป็นการยืนยันถึงทิศทางของ Best Wallet ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มโดยยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลางมาโดยตลอด
Best Wallet เดินหน้าอย่างรวดเร็วสู่การเป็นกระเป๋าคริปโตชั้นนำในตลาดภายในเวลาเพียงหนึ่งปี ด้วยฐานผู้ใช้งานรายเดือนที่มากกว่า 250,000 คน และการผสานรวมโปรโตคอลกระจายศูนย์รวมถึงสะพานเชื่อมต่อข้ามเครือข่าย (Bridge) จำนวนมาก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ล้ำสมัยอย่าง Upcoming Tokens ที่เปิดตัวเป็นรายแรกในวงการซึ่งช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างโดดเด่น
ความชัดเจนด้านกฎหมายถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการยอมรับคริปโตทั่วโลก โดยเฉพาะหลังการผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สร้างกรอบการกำกับดูแล Stablecoin ที่มีการค้ำประกันเต็มจำนวนอย่างชัดเจนทำให้ Stablecoin และโทเค็นสินทรัพย์ในโลกจริง (RWA) ซึ่งมีมูลค่ารวมกันเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บนบล็อกเชน ได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น
ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ที่ออก Stablecoin ต้องสำรองสินทรัพย์ในอัตราส่วน 1:1 ด้วยสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและสภาพคล่องสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมกับการตรวจสอบจากบุคคลที่สามอย่างสม่ำเสมอ
โครงสร้างและกฎระเบียบที่ชัดเจนช่วยปูทางให้บริษัทการเงินดั้งเดิม (TradFi) ขนาดใหญ่อย่าง Visa, Stripe และ PayPal สามารถผสานรวม Stablecoin เข้ากับระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การพัฒนาเหล่านี้ ล้วนต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล และการได้รับการรับรองจาก WalletConnect ก็เป็นอีกหนึ่งการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ Best Wallet ในการพัฒนาแพลตฟอร์มโดยยึดความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก
ท่ามกลางการยอมรับคริปโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่ Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan ซึ่งเคยมีท่าทีต่อต้านคริปโต ก็ยังต้องยอมรับว่า ธนาคารไม่สามารถเพิกเฉยต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ และได้เริ่มพิจารณาโครงการ “JPMorgan deposit coin” ของตนเอง เนื่องจากผู้เล่นฟินเทคที่ใช้ Stablecoin อาจเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดการชำระเงินของธนาคาร
มุมมองที่เปลี่ยนไปไม่ได้มีแค่ในกลุ่มสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทด้านการโอนเงินระดับโลกอย่าง Western Union ที่มองว่า Stablecoin ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่คือโอกาสทางนวัตกรรมในการทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในยุคที่นโยบายด้านการเมือง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน และความต้องการของผู้ใช้มาบรรจบกัน แพลตฟอร์มที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเท่านั้นที่จะอยู่รอด Best Wallet จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในจุดนี้ ด้วยแผนงานที่มุ่งมั่นในการเป็นมากกว่ากระเป๋าคริปโตทั่วไป และพร้อมที่จะดึงดูดผู้ใช้งานในคลื่นลูกใหม่ของการยอมรับคริปโตที่กำลังจะเกิดขึ้น
สำหรับเฟสที่ 4 ของ Best Wallet จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น ระบบ DCA อัตโนมัติสำหรับ Bitcoin ที่ช่วยให้การสะสมระยะยาวเป็นเรื่องง่ายขึ้น รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะมาอย่าง การทำธุรกรรมโดยจ่ายค่า gas เป็นเหรียญอะไรก็ได้ (gas-token-free) และการเทรดอนุพันธ์ ซึ่งเป็นการขยายขีดความสามารถของระบบแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX) ในตัวแอปฯ
นอกจากนี้ Best Wallet ยังมีฟีเจอร์ Staking Aggregator ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาโปรโตคอลที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด และ Best Card ซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ใช้จ่ายคริปโตในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย
ในขณะที่ Stablecoin และโทเค็นสินทรัพย์ในโลกจริง(RWA) กำลังกลายเป็นที่ยอมรับในวงกว้างจากกฎหมาย GENIUS Act ในสหรัฐฯ ส่งผลให้ Best Wallet ได้เตรียมพร้อมที่จะผสานผลตอบแทนจากโทเค็น RWA เข้ากับระบบ Staking เพื่อเปิดทางให้ผู้ใช้เข้าถึงแหล่งรายได้ใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
Best Wallet ในฐานะกระเป๋าเงินทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์กว่า MetaMask จึงมุ่งมั่นพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคต
การปรับตัวอย่างไม่หยุดยั้งและการพัฒนาฟีเจอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Best Wallet ก้าวขึ้นเป็นผู้นำและดึงดูดผู้ใช้กลุ่มใหม่ในอนาคต
สามารถดาวน์โหลด Best Wallet ได้แล้ววันนี้ทั้งบน Google Play และ Apple Store หรือติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทาง X, Telegram และ Discord
หากสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Best Wallet อย่างเป็นทางการ
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และไม่มีฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ❌ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. ไม่มีสัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ✔️ |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
<strong>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์</strong>