<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อัพเดตปี 2025 : 8 กระเป๋า Crypto Wallet ยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โลกของเงินดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับโอกาสในการทำกำไรที่มาคู่กับความเสี่ยงจากการโจรกรรมและการฉ้อโกง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนคริปโททุกคนคือ การเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสม เพราะเปรียบเสมือนตู้เซฟที่ใช้เก็บสินทรัพย์อันมีค่าของเรา

ในบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชนจะพามาอัพเดต 8 กระเป๋าเงินดิจิทัลที่น่าสนใจประจำเดือนกันยายนปี 2025 และเหมาะสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ

ประเภทของกระเป๋าคริปโท

โดยทั่วไป กระเป๋าเงินดิจิทัล (Crypto Wallet) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Hot Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เหมาะสำหรับทำธุรกรรมรายวัน และ Cold Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าที่เป็นอุปกรณ์แยกต่างหาก และไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้มีความปลอดภัยสูงกว่า 

สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ การใช้กระเป๋าแบบ Non-custodial หมายความว่า คุณเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทใด ๆ แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบในการดูแลรักษา Private Key และ Seed Phrase ของคุณเอง

1. Exodus – กระเป๋าเงินคริปโทโดยรวมที่ดีที่สุด

Exodus เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนทุกประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการจัดการพอร์ตการลงทุนที่มีสินทรัพย์หลากหลาย เนื่องจากรองรับเหรียญได้จำนวนมาก มีคู่เทรดนับพัน และสามารถแลกเปลี่ยนเหรียญได้ภายในแอปพลิเคชันโดยตรง

นอกจากนี้ยังใช้งานง่ายบนทุกแพลตฟอร์ม และมีคะแนนความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับนักลงทุนทุกคน

ข้อดี

  • รองรับสินทรัพย์จากกว่า 50 เครือข่ายบล็อกเชน
  • สามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Trezor ได้โดยตรง
  • สามารถสลับเหรียญในแอปได้เลย
  • ได้คะแนนความปลอดภัยสูงในทุกด้าน

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถกำหนดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้อย่างละเอียด
  • ไม่มีรายงานการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์มที่รองรับ : Android, Brave, Chrome, iOS, Linux, Mac, Windows
  • อันดับความปลอดภัย (CER): AAA
  • คะแนนความปลอดภัย (CertiK Skynet): 85.20 (A)

2. Zengo – กระเป๋าเงินคริปโทสำหรับมือใหม่

Zengo ทำให้การใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลง่ายขึ้นอย่างมาก ด้วยการตัดขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การใช้ Seed Phrases และ Private Keys ออกไป และแทนที่ด้วยระบบความปลอดภัยแบบ MPC (Multi-Party Computation) ซึ่งเป็นโมเดลที่ไร้กุญแจส่วนตัว

นอกจากดีไซน์ที่ดึงดูดใจ และใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่แล้ว Zengo ยังมีทีมสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และขั้นตอนการตั้งค่าที่ไม่ยุ่งยาก ทำให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ข้อดี

  • ไม่ต้องใช้ seed phrases หรือ private keys
  • มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
  • อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายและเข้าใจง่าย
  • ขั้นตอนการตั้งค่าไม่ซับซ้อน

ข้อเสีย

  • รองรับเครือข่ายคริปโทน้อย
  • มีค่าธรรมเนียมสูงสำหรับการแลกเปลี่ยนในแอป

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์มที่รองรับ : Android, iOS, Linux, Mac, Windows
  • อันดับความปลอดภัย (CER): AAA
  • คะแนนความปลอดภัย (CertiK Skynet): 84.97 (A)

3. Sparrow – กระเป๋าเงินคริปโทสำหรับ Bitcoin ที่ดีที่สุด

Sparrow เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุม Bitcoin และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้อย่างสมบูรณ์ โดยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์แบบสาธารณะ, ส่วนตัว หรือ Bitcoin Core ได้ตามต้องการ 

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่าโปรแกรมแก้ไขธุรกรรม ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ Blockchain Explorer และใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย เนื่องจากเป็น Light Client

ที่สำคัญที่สุดคือ Sparrow รองรับ Lightning Network ซึ่งเป็นโปรโตคอลการชำระเงินที่ถูกพัฒนาขึ้นบนเครือข่าย Bitcoin ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก

ข้อดี

  • เป็นกระเป๋าเงินเดสก์ท็อปที่เบา และใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม
  • รองรับกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ยอดนิยมทุกชนิด
  • มีโปรแกรมแก้ไขธุรกรรมที่ครอบคลุม
  • มีตัวเลือกการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์หลายแบบ

ข้อเสีย

  • ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Bitcoin
  • ไม่มีฟีเจอร์สลับเหรียญ หรือซื้อขายด้วยเงินทั่วไปในตัว

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์มที่รองรับ : Linux, Mac, Windows
  • อันดับความปลอดภัย (CER): ไม่ระบุ
  • คะแนนความปลอดภัย (CertiK Skynet): ไม่ระบุ

4. BlueWallet – กระเป๋าเงิน Bitcoin บนมือถือที่ดีที่สุด

BlueWallet เป็นกระเป๋าเงินบนมือถือที่นำเสนอคุณสมบัติการเทรดขั้นสูงพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ทำให้การจัดการ Bitcoin ของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์เด่นของ BlueWallet ประกอบด้วยการรองรับ Lightning Network สำหรับการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมต่ำ, การทำธุรกรรมแบบกลุ่ม, การกระจาย (broadcast) และการลงนามบางส่วน (signed transactions)

นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนแบบ Push Notification ที่ช่วยให้ผู้ใช้งาน ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวในกระเป๋าเงินของตนเอง

ข้อดี

  • ดีไซน์ทันสมัยพร้อมอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
  • รองรับ Lightning, Multi-signature, Watch-only และ HD Wallets
  • มีระบบแจ้งเตือนแบบ Push Notification สำหรับกระเป๋า Bitcoin
  • มีตัวเลือกการทำธุรกรรมที่หลากหลาย

ข้อเสีย

  • ขาดแหล่งข้อมูลการเรียนรู้
  • ฟีเจอร์ค่อนข้างเฉพาะทางและเทคนิคสูง

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์มที่รองรับ : Android, iOS, Mac
  • อันดับความปลอดภัย (CER): ไม่ระบุ
  • คะแนนความปลอดภัย (CertiK Skynet): ไม่ระบุ

5. Trust Wallet – กระเป๋าเงินคริปโทบนมือถือที่ดีที่สุด

Trust Wallet เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานบนมือถือเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นกระเป๋าสารพัดประโยชน์ที่รองรับทั้ง NFT และโปรเจกต์ Web3 อื่น ๆ ได้อย่างครบถ้วน ได้รับคะแนนความปลอดภัยสูงอย่างต่อเนื่อง และยังรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนมากที่สุดในบรรดากระเป๋าเงินทั้งหมดในรายการนี้ 

นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ใช้งานง่ายที่สุดบนมือถือ เพราะมีฟังก์ชันสำหรับแลกเปลี่ยนโทเคนได้ในตัวและมีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย

ข้อดี

  • สามารถดู NFT จาก Ethereum และ BNB Chain ได้ในแอป
  • ออกแบบมาสำหรับมือถือโดยเฉพาะ ด้วยอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและสะอาดตา
  • รองรับเหรียญจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ
  • สามารถสลับเหรียญได้โดยตรงในกระเป๋าเงิน

ข้อเสีย

  • ปรับแต่งค่าธรรมเนียมแก๊สได้จำกัด
  • ไม่มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าแบบเรียลไทม์

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์มที่รองรับ : Android, Brave, Chrome, Edge, iOS
  • อันดับความปลอดภัย (CER): AAA
  • คะแนนความปลอดภัย (CertiK Skynet): 89.19 (AA)

6. MetaMask – กระเป๋าเงิน Web3 ที่ดีที่สุด

MetaMask ได้กลายเป็นกระเป๋าเงิน Web3 ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักลงทุนในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม DeFi (การเงินแบบไร้ตัวกลาง) และตลาด NFT ได้เกือบทุกแห่ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมมาตรการความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากระเป๋าเงินทั้งหมดในลิสต์นี้

MetaMask ยังมีฟังก์ชันที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย เช่น การตั้งค่าธุรกรรม, การติดตามโทเคน และการควบคุม slippage ทำให้เป็นที่ชื่นชอบทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ใช้งานขั้นสูง

ข้อดี

  • ใช้งานกับ dApps ได้นับพันแอป แบบไร้รอยต่อ
  • เพิ่มฟังก์ชันการทำงานได้ด้วยปลั๊กอินจากบริษัทอื่น
  • อัปเดตและแพทช์ความปลอดภัยบ่อยครั้ง
  • อัตราความสำเร็จในการทำธุรกรรมสูงถึง 99.99%

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับ Bitcoin โดยตรง
  • การตั้งค่าเครือข่ายค่อนข้างซับซ้อน

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์มที่รองรับ : Android, Brave, Chrome, Edge, Firefox, iOS, เว็บ
  • อันดับความปลอดภัย (CER): AA-AAA
  • คะแนนความปลอดภัย (CertiK Skynet): 89.77 (AA)

7. Trezor Model One – กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์สำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด

Trezor Model One คือ กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบฮาร์ดแวร์รุ่นบุกเบิก ที่แตกต่างจากกระเป๋าเงินทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อเก็บ Private Keys ของคุณไว้ในอุปกรณ์ ไม่ใช่ในแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์

Trezor เปิดตัวในปี 2014 และยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดในปัจจุบัน ด้วยราคาเพียง 49 ดอลลาร์ แม้จะไม่มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อนมากมาย แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะการยืนยันธุรกรรมด้วยตนเอง, การป้อน PIN หรือ Passphrase และขนาดที่เล็กกะทัดรัด ทำให้เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้ สำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน Cold Wallet

ข้อดี

  • ต้องยืนยันการทำธุรกรรมบนอุปกรณ์เท่านั้น
  • เข้าถึงได้ด้วยรหัสผ่าน (passphrase) และ PIN
  • ความปลอดภัยและการออกแบบเป็นแบบ Open-source
  • ราคาไม่แพง

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับเหรียญยอดนิยมอย่าง Cardano, Solana และเหรียญอื่น ๆ
  • บทเรียนแนะนำการใช้งานค่อนข้างแพง

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์ม: Android, iOS, Linux, Mac, Windows
  • ขนาด: 2.4 x 1.2 x 0.2 นิ้ว
  • อันดับความปลอดภัย (CER): C *หมายเหตุ: อันดับความปลอดภัยและแพลตฟอร์มของแอป Trezor Suite ซึ่งเป็นแอปอย่างเป็นทางการของแบรนด์

8. Ledger Flex – กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ระดับไฮเอนด์ที่ดีที่สุด

Ledger Flex คือ กระเป๋าเงินดิจิทัลที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งาน นอกเหนือจากหน้าจอสัมผัสขนาด 2.84 นิ้วและขนาดที่กะทัดรัดแล้ว กระเป๋าเงินนี้ ยังมีชิปพิเศษที่ทนทานต่อการงัดแงะ เพื่อใช้สำหรับเก็บ Private Keys และลงนามในธุรกรรม

นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างราบรื่นด้วยชิป NFC (Near-field communication) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลสำคัญอย่าง Private Keys ของคุณปลอดภัย และไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต

ข้อดี

  • ตรวจสอบและลงนามธุรกรรมได้จากหน้าจอเดียว
  • หน้าจอ E Ink® อ่านง่ายขึ้น
  • รองรับคริปโตกว่า 15,000 สกุล
  • ใช้ชิปความปลอดภัย CC EAL6+

ข้อเสีย

  • ต้องใช้แอป Ledger Live เพื่อใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมด
  • เป็นรุ่นใหม่ ที่ยังไม่มีการทดสอบในวงกว้างเท่าที่ควร

จุดเด่น

  • แพลตฟอร์มที่รองรับ : Android, iOS, Linux, Mac, Safari, Windows
  • ขนาด: 3.07 x 2.22 x 0.33 นิ้ว
  • อันดับความปลอดภัย (CER): CCC *หมายเหตุ: อันดับความปลอดภัยและแพลตฟอร์มของแอป Ledger Live ซึ่งเป็นแอปอย่างเป็นทางการของแบรนด์

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : money