เกิดข้อมูลที่น่าสนใจและน่าตกใจในโลกการเงิน เมื่อมีการเปิดเผยว่า ณ เดือนตุลาคม 2025 ยอดการถือครอง Bitcoin ($BTC) ของรัฐบาลเยอรมนี ได้ลดลงเหลือเพียง $814.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่า หากนักลงทุนรายย่อยมี Bitcoin เกิน $814.54 คุณจะมี BTC มากกว่าคลังของประเทศเยอรมนีไปแล้ว
การเปิดเผยนี้สร้างความฮือฮาและตอกย้ำถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของราคา Bitcoin และความซับซ้อนในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของภาครัฐ
การถูก ‘บังคับขาย’ สินทรัพย์ที่ยึดมา
- Liquidation Assets: การลดลงอย่างรุนแรงของยอดถือครอง BTC ของเยอรมนี มาจากการที่รัฐบาลต้องทำการ “บังคับขาย” (Forced Liquidation) สินทรัพย์ดิจิทัลที่เคยยึดมาได้จากคดีผิดกฎหมาย (Illicit Assets) ภายใต้กรอบกฎหมายของสหภาพยุโรป (EU)
- มูลค่าหายไปกว่า 50,000 BTC: ยอดถือครองปัจจุบันของเยอรมนีลดลงอย่างมากจากเดิมที่เคยยึดได้ถึง 50,000 BTC ในปี 2024 การตัดสินใจขายเพื่อแปลงเป็นเงินสดนี้ แม้จะทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ก็สวนทางกับแนวคิดที่ว่ารัฐบาลจะสะสม BTC ไว้เป็นทุนสำรองเชิงกลยุทธ์
- ผลกระทบต่อราคา: งานวิจัยระบุว่า การเทขายสินทรัพย์ดิจิทัลขนาดใหญ่โดยสถาบัน (Institutional Sales) สามารถกระตุ้นให้ราคา Bitcoin ดิ่งลงได้ถึง 15% ในระยะสั้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ตลาดต้องเฝ้าระวัง
Bitcoin: จาก Speculation สู่การครอบครองของบุคคลทั่วไป
- Bitcoin Price Surge: ข้อมูลนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงถึง $113,694 ในปี 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามูลค่าของ Bitcoin ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนทำให้ยอดถือครองที่เคยมีมูลค่าสูงในอดีต (50,000 BTC) มีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์ในปัจจุบัน
- อำนาจการซื้อของปัจเจก: การที่จำนวน BTC ของนักลงทุนทั่วไปสามารถแซงหน้าคลังของประเทศพัฒนาแล้วอย่างเยอรมนีได้ เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของอำนาจทางการเงิน ที่ย้ายจากรัฐบาลมาสู่มือของบุคคลทั่วไป (Individual Investor)
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การที่รัฐบาลเลือกที่จะขายสินทรัพย์ที่ยึดมาเพื่อทำกำไรในระยะสั้น อาจเป็นการ “ประเมินมูลค่า Bitcoin ในระยะยาวต่ำเกินไป” (Underestimate Long-Term Value) ในขณะที่ Bitcoin ยังคงเดินหน้าเติบโตและถูกยอมรับในระดับโลกในฐานะทางเลือกของเงิน Fiat
ที่มา: @BitcoinMagazine

