JPMorgan ธนาคาเพื่อการลงทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนที่น่ากังวลว่า Strategy (MSTR) กำลังเสี่ยงที่ถูกถอดถอนออกจากดัชนีหลายตัว อันเนื่องมาจากศักยภาพบริษัทที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
รายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาระบุว่า สัดส่วนพรีเมียมที่เคยสูงเกินจริงของ Strategy ซึ่งเหนือกว่ามูลค่าการถือครอง Bitcoin ของบริษัทนั้นได้หายไปเกือบหมดแล้ว แต่การร่วงลงของราคาหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้ สะท้อนถึงความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าผู้ให้บริการดัชนี MSCI อาจถอดบริษัท Strategy ออกจากดัชนีหุ้น ในงานประชุมครั้งถัดไป ณ วันที่ 15 มกราคม 2026 เช่นเดียวกับดัชนี Nasdaq100
ปัจจุบัน Strategy เป็นส่วนหนึ่งของ ดัชนีหุ้นสำคัญระดับโลก เช่น Nasdaq 100, MSCI USA, และ MSCI World ซึ่งการถูกถอดออกจากดัชนีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องดีต่อบริษัท
นักวิเคราะห์ Nikolaos Panigirtzoglou มองว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ Strategy ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่กว่า 9 พันล้านดอลลาร์อยู่ในผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบเชิงรับ (passive vehicles) เช่น กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETFs) และกองทุนรวม (mutual funds) ที่ติดตามดัชนีเหล่านี้
การมีอยู่ของบริษัทในดัชนีเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันสามารถเข้าถึง Bitcoin โดยอ้อม แต่สถานการณ์นี้อาจพลิกกลับอย่างรุนแรง หาก MSCI ถอด Strategy และบริษัทอื่น ๆ ที่พึ่งพาสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะสินทรัพย์คงคลังหลักออกจากดัชนี
มีการประมาณว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ Strategy อาจมีเงินไหลออกกว่า $2.8 พันล้าน หากถูกถอดออกจากดัชนี MSCI และอาจเสียหายเพิ่มอีก $8.8 พันล้าน หากดัชนีอื่นร่วมถอดถอนด้วย
นอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเม็ดเงินแล้ว ความเสียหายยังจะส่งผลลามมาถึงชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัท ซึ่งจำเป็นอย่างมากหากพวกเขาต้องการที่จะเปิดระดมทุนเพิ่มเติมในอนาคต แถมนักลงทุนใหญ่ยังจะตีตัวออกห่างเนื่องจากหุ้นจะมีสภาพคล่องลดลงทำให้ไม่น่าซื้อ
ดังนั้น การที่ราคา Bitcoin กำลังร่วงลงมาสู่ราคาทุนของ Strategy อาจไม่ใช่ปัญหาเดียวที่ต้องกังวลอย่างเดียวอีกต่อไป ซึ่งเป็นที่ทราบทั่วกันอยู่แล้วว่า Strategy เป็นเสาหลักที่ไม่มีใครอยากให้ล้ม เพราะอาจส่งผลเสียให้กับตลาดคริปโตยิ่งกว่าเหตุการณ์ของ FTX
ที่มา : Coindesk

