XRP ถือเป็นเหรียญขวัญใจที่นักลงทุนคริปโตชาวไทยหลายคนย่อมรู้จักเป็นอย่างดี มันมีข้อดีหลากหลายประการเช่น สามารถทำธุรกรรมได้ด้วยความเร็วสูง XRP ถือว่าเป็นหนึ่งในคริปโตที่สามารถทำธุรกรรมได้ว่องไวที่สุดเหรียญหนึ่งเลยก็ว่าได้ พร้อมกับมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่าเหรียญอื่น ๆ มาก ส่วนใหญ่แล้ว มันมักถูกจะใช้ในการโอนย้ายคริปโตจากแห่งหนึ่งไปอีก เช่นโอนจากเว็บเทรดคริปโตในไทยไปต่างประเทศ หรือจะสามารถใช้ทำธุรกรรมจริง ๆ ก็ได้เช่นกัน
อ้างอิงจาก Coinmarketcap มันถือเป็นเหรียญที่มีมูลค่าทั้งหมดโดยรวม 22.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของตลาดคริปโต
ทำไม XRP ถึงถูกวิพากษ์วิจารณ์
ถึงแม้ XRP จะมีข้อดีมากมายที่เห็นได้ชัด แต่หากลองพิจารณาดูเทคโนโลยีของมันจะพบว่า Node ในการยืนยันธุรกรรมทั้งหมดนั้น ถูกควบคุมอยู่โดยบริษัท Ripple ผู้สร้างเหรียญ XRP ซึ่งโดยปกติแล้ว Node ของสำหรับการยืนยันธรุกรรมในเครือข่ายอื่น ๆ เช่น Bitcoin จะไม่ได้ถูกครอบครองโดยองค์กร หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะกระจายไปยังรายย่อยต่าง ๆ ทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผู้คนในวงการคริปโตหลากหลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ XRP ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นเหรียญที่ Centralized ซึ่งตรงข้ามกับแนวคิดการกระจายอำนาจ หรือ Decentralized ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดประสงค์ที่แท้จริงของ Cryptocurrency การทำแบบนี้เท่ากับขัดกับแนวคิดพื้นฐาน และความเป็นคริปโตอย่างสิ้นเชิง
แต่ทาง Ripple เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในข้อกล่าวหาดังกล่าว พวกเขาได้ประกาศว่า ในอนาคต ได้วางแผนที่จะกระจาย Node เหล่านี้ออกไปสถาบันการเงินใหญ่ ๆ ต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้มีความเป็น Decentralized มากขึ้น
เหตุผลที่เลือก XRP
นอกจากเหนือจากปัจจัยด้านเทคโนโลยี และพื้นฐานต่าง ๆ แล้ว หนึ่งในเหตุผลที่คนเลือกลงทุน XRP นั้นมาจากผลงานอันโดดเด่นที่มันเคยทำไว้เมื่อปี 2017
หากลองดูข้อมูลของปี 2017 กระแสของ XRP นั้นร้อนแรงเป็นอย่างมาก ในวันที่ 1 มกราคม 2017 XRP มีราคา 0.006523 และในวันที่ 30 ธันวาคม 2017 XRP มีราคา 2.74 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นของมูลค่าประมาณ 42,000 เปอร์เซ็นต์ หรือ 420 เท่าเลยทีเดียว ภายในระยะเวลา 1 ปีเท่านั้น กล่าวคือ หากลงทุนซื้อ XRP ไว้มูลค่า 1 แสนบาทในช่วงต้นปี 2017 มันจะมีมูลค่า 42 ล้านบาทในท้ายปี 2017
จากการทะยานราคาอย่างรุนแรง ในเดือนธันวาคมปี 2017 XRP สามารถก้าวขึ้นไปคว้าตำแหน่งอันดับ 2 แทนที่ Ethereum มาได้
จากเหตุการณ์นั้น ส่งผลให้เรียกเสียงฮือฮาให้ผู้คนทั้งวงการคริปโต นักลงทุนที่สามารถเข้ามาทันในช่วงนั้น ก็ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำกลับไป
ช่วงต้นปี 2018 ถึงปัจจุบัน ตลาดคริปโตมีมูลค่าที่ลดลงอย่างมาก เหรียญส่วนใหญ่มีมูลค่าลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นแบบนี้ยาวนานกว่า 9 เดือนแล้ว แต่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา XRP มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เหรียญอื่น ๆ เช่น Bitcoin มีมูลค่าลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ และกลายเป็นอีกครั้งในประวัติศาสตร์ที่ XRP กลายเป็นอันดับ 2 แทนที่ Ethereum
ถึงแม้ตลาดคริปโตจะยังอยู่กับเทคโนโลยี Blockchain ที่หลายคนบอกว่า มันจะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมการเงินก็ตาม แต่นักลงทุนคริปโตส่วนใหญ่ที่เข้ามาในตลาด ก็ไม่ต่างอะไรจากนักลงทุนในตลาดการเงินอื่น ๆ พวกเขาหวังที่จะทำกำไรจากเงินที่ลงทุนไปทั้งนั้น และพวกเขาอาจจะมองว่า XRP มีศักยภาพพอที่จะสร้างกำไรให้พวกเขาได้ดีที่สุด เลยตัดสินใจที่จะลงทุน ถึงแม้เหรียญมันจะถูกตราหน้าว่าไม่ใช่ Cryptocurrency ก็ตาม
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น