รายงานจากสื่อท้องถิ่นในญี่ปุ่น Asahi Shimbun เผยว่าเมื่อวันพุธที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่าตำรวจประเทศญี่ปุ่นจับผู้ต้องสงสัยเพศชายจำนวน 8 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำแชร์ลูกโซ่โดยมีมูลค่าความเสียหายมากถึง 68.4 ล้านดอลลาร์
ผู้ต้องสงสัยได้เปิดบริษัทปลอมด้านการลงทุนที่มีนามว่า “Sener” โดยจะมีการจัดสัมมนาตลอดเวลา ทางตำรวจรายงานว่าจะมีการบันทึกการประชุมอย่างน้อย 1 ครั้งและจะทำการอัปโหลดขึ้น Youtube โดยในระหว่างการสัมมนานั้นทางบริษัทของผู้ต้องสงสัยนี้ได้สัญญาว่าจะได้รับผลตอบแทนตั้งแต่ 3 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ในการลงทุน และผู้ต้องสงสัยก็ยังมีการให้ผู้เข้าร่วมประชุมชักชวนคนอื่นให้มาลงทุนอีกด้วย
นักสืบเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยนี้ได้รับเงินสดและ Bitcoin จาก 6,000 คนใน 44 เขตการปกครองรวมทั้งโตเกียว คดีนี้ถูกฟ้องที่ศาลในกรุงโตเกียวโดยมีเหยื่อจำนวน 73 รายที่มาฟ้องในคดีนี้ และมีความเสียหายมากกว่า 3.2 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงจาก Asahi Shimbun ผู้ต้องสงสัยหกคนได้ยอมรับในข้อหานี้แล้วแต่อีกสองคนให้การปฏิเสธ
เรื่องกฏหมาย
ทางตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยพยายามหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้องโดยการใช้ Cryptocurrency เนื่องจากมันยังอยู่ใน “พื้นที่สีเทา” อ้างอิงจาก FSA ของญี่ปุ่นนั้นระบุว่า Cryptocurrency ไม่ได้เป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของศาล อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถควบคุมมันได้ก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของการลงทุน ทาง FSA กล่าวเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้มีการแฮ็กเว็บเทรดคริปโต Zaif มูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์และต้นปี 2018 ก็มีเว็บเทรด Coincheck ที่ถูกแฮ็กเหรียญ NEM มูลค่ากว่า 530 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้คณะกรรมการนโยบายด้านภาษีของประเทศญี่ปุ่นกำลังหาทางที่จะมาอำนวยความสะดวกในการรายงานเรื่องภาษีจาก Cryptocurrency ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีอารอภิปรายเกี่ยวกับกรอบกฏหมายในปัจจุบันและเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการรายงานผลกำไรจากการลงทุนใน Cryptocurrency มากขึ้น
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น