เทคโนโลยี Blockchain ได้เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมหลาย ๆ อย่าง แต่ที่ชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นอุตสาหกรรมด้านการเงิน อย่างที่เราสามารถเห็นกันได้ ในตลอดระยะเวลาในปี 2018 ที่ผ่านมา
และนี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราคาดได้ว่าในปีหน้านั้น Blockchain จะยังคงเป็นที่ต้องการใช้สังคมหรือในหลาย ๆ แห่ง ๆ อย่างแน่นอน
ทุกอย่างต้องมีการปรับตัว ถ้าเรามองไปในยุคที่มีอินเทอร์เน็ตใหม่ ๆ เราก็จะพบว่าในช่วงแรก หลาย ๆ คนก็คงมองว่ามันคืออะไร มันสามารถมาเปลี่ยนอะไรโลกได้หรือไม่ แต่สุดท้ายอินเทอร์เน็ตนี่แหละได้มาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างมากมายของทุกคน
Blockchain ก็เช่นกัน นี่อาจเป็นระยะเริ่มแรกของมัน ที่จะเป็นตัวที่บอกว่าเทคโนโลยีนี้กำลังจะมานะ และจะมีอิทธิพลต่อโลกใบนี้ด้วย
เรามาดูเทรนด์ในปีหน้าว่า Blockchain จะมีบทบาทอะไรบ้างกับชีวิตประจำวันของพวกเรา
บริษัทยุคเก่าเริ่มหันมามอง Blockchain มากขึ้น
ถ้าเราสังเกตกันบริษัทต่าง ๆ เริ่มหันมามองเทคโนโลยีที่ทันสมัยหรือมีฝ่ายด้านไอที ที่คอยศึกษาหรือนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาทดลองใช้ในบริษัท
องค์กรต่าง ๆ เริ่มผลักดันเทคโนโลยี Blockchain ให้อยู่ในกระแสหลักเช่นอุตสาหกรรมด้านธนาคาร, บริการทางการเงิน, ประกันภัย, การดูแล Supply Chain, สุขภาพ, E-commerce หรือแม้แต่เกมก็เช่นกัน
แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือทางธนาคารนั้น เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการส่งเงินมากขึ้น โดยหันไปใช้แพลตฟอร์มของ Ripple เช่น xRapid ในการส่งเงินข้ามพรมแดน โดยที่พวกเขาเลือกใช้นั้นเพราะว่าค่าใช้จ่ายที่ถูกลงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
มีการใช้งาน Blockchain มากขึ้น
บริษัทต่าง ๆ เช่น Logistics เริ่มหันมาใช้งาน Blockchain ในการติดตามการเดินทางในการจัดส่งสินค้ามากขึ้น เช่นดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีรายงานว่าบริษัทขนส่งอย่าง Lotte Logistics ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านพาณิชย์นาวีและ Logistic แห่งประเทศเกาหลีใต้ ได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานเพื่อดูแลในเรื่อง Supply Chain
หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Walmart ก็เริ่มที่จะใช้ Blockchain เข้ามาดูแลเรื่องการขนส่งสินค้า โดยในที่นี้ได้นำมาดูแลการส่งสินค้าผ่าน Drone อีกด้วย
วงการแพทย์ก็เริ่มใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการดูแลข้อมูลของคนไข้ เช่นการรักษา เรื่องยา อาการแพ้ยาต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะอยู่บน Online และไม่สามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
ผลสำรวจจาก Deloitte ยังค้นพบอีกว่าบริษัทด้านโทรคมนาคมสนใจลงทุนเทคโนโลยี Blockchain โดย 59 เปอร์เซ็นต์จากผลสำรวจได้กล่าวว่าพวกเขาคิดว่าเทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามา Disrupt ในบางอุตสาหกรรมและอีก 29 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่า พวกเขาได้ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในธุรกิจของพวกเขาแล้ว
เกิด Startup ด้าน Blockchain ใหม่ ๆ เพื่อจะมา Disrupt บริษัทยุคเก่า
ในปีที่ผ่านมามีบริษัท Startup เกิดขึ้นมากมาย โดยพวกเขาคิดว่าจะมา Disrupt บริษัทเดิม ๆ ที่มีอยู่ ส่วนใหญ่แล้วผู้ก่อตั้งบริษัท Startup เหล่านี้จะมีตำแหน่งผู้บริหารมาก่อน และรู้เรื่องเทคโนโลยี Blockchain
พวกเขาเหล่านี้จะสามารถนำเทคโนโลยี Blockchain มารวมกับโมเดลธุรกิจที่มีอยู่เดิม ซึ่งมันก็จะเป็นส่วนเสริมที่ทำให้ธุรกิจ Startup สามารถดำเนินการต่อไปได้ในยุคนี้
รัฐบาลหันมาสนใจเรื่อง Blockchain
มีคนกล่าวไว้ว่าทุกนวัตกรรมที่จะสามารถนำมาใช้งานในประเทศได้นั้น ทางรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเป็นผู้สนับสนุน Blockchain ก็เช่นกัน ถ้าอยากให้ Blockchain นั้นถูกไปใช้งานในวงกว้าง ทางรัฐบาลต้องเป็นผู้สนับสนุนในเรื่องนี้
ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกเช่นสวิตเซอร์แลนด์ที่มีเมืองด้าน Blockchain อย่างเมือง Zug โดยมีรายงานว่าเมือง Zug เป็นศูนย์รวมการพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีมากขึ้นกว่า 177 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 อีกด้วย
นอกจากเมือง Zug แล้วนั้น รัฐบาลของประเทศไทยก็เริ่มที่จะสนับสนุนเทคโนโลยี Blockchain เพราะช่วงกลางปี 2018 ก็ได้ออก พรก. สินทรัพย์ดิจิทัล และยังสร้างแพลตฟอร์ม Blockchain ที่เอาไว้ติดตามการโกงการชำระภาษีหรือ TAX อีกด้วยนั่นเอง
ในปี 2019 เราอาจได้เห็นผลิตภัณฑ์ด้าน Blockchain ออกมามากมาย เพื่อมาแก้ปัญหาในหลาย ๆ ด้านที่มีอยู่ และเชื่อว่าอนาคตบริษัททั่วไปจะเริ่มใช้ Blockchain มาใช้ในธุรกิจของตนมากยิ่งขึ้น
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น