บริษัทอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติไต้หวัน “HTC” โปรโมทโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุด Blockchain ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ทาง siamblockchain เคยรายงานว่าทาง HTC ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ HTC EXODUS 1 ออกมาใหม่ซึ่งสามารถทำการซื้อขายด้วย Bitcoin และ Ethereum เท่านั้น แต่ในตอนนี้ HTC EXODUS 1 สามารถทำการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐรวมถึงเงิน Fiat สกุลอื่น ๆ ได้แล้ว
ทางบริษัทได้ออกมาประกาศในที่ประชุม Mobile World Congress ที่ประเทศบาเซโลนาว่าทางบริษัทได้เพิ่มการชำระเงินด้วยสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ เช่น Litecoin เข้ามาด้วย รวมถึง BNB Token (โทเค็นของทาง Binanc)
นาย Phil Chen หัวหน้าแผนก Decentralized ของ HTC ได้เปิดเผยกับทาง Coindesk ว่า “การเปิดตัวใหม่ครั้งนี้ได้เพิ่มฟังก์ชั่นอื่นเข้ามาหลังจากที่โทรศัพท์ได้เปิดให้ลูกค้าจองออกมาครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว”
ในตอนนี้ราคาโทรศัพท์มือถือ HTC EXODUS เปิดขายออนไลน์เท่านั้นด้วยมูลค่า 699 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งนาย Chen ก็ได้เผยว่าทาง HTC ก็พิจารณานำโทรศัพท์ขายที่ร้านของผู้ขนส่งด้วยเช่นกันแต่เป็นการพูดคุยดังกล่าวยังไม่ได้ลงรายละเอียดอะไร
“เราได้พูดเปรย ๆ เรื่องนี้ไว้ด้วยเช่นกันแต่ก็ยังไม่ได้ลงรายละเอียดลีกและสาเหตุที่เราเข้าร่วม Mobile World Congress ก็เพื่อที่จะพูดคุยเรื่องนี้”
การปูทางไปสู่ Web 3.0
ในวันนี้ทาง HTC ได้ออกมาประกาศเพิ่มเติมคือทางบริษัทจะรวม EXODUS เข้ากับ Opera web browser ซึ่งเป็นการออกแบบขึ้นมาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับลูกค้าในด้านของการใช้งานคริปโตเคอร์เรนซี เช่น ลูกค้าซึ่งโหลดกองทุนคริปโตเข้ามาที่ Zion (แอปพลิเคชั่นวอลเล็ท) จะสามารถชำระเงินจำนวนเล็ก ๆ น้อย ๆ บนเว็บไซต์โดยใช้ Opera หรือ Decentralized Applications (Dapp) อื่น ๆ ที่จะโหลดลงบนเครื่องอัตโนมัติ
โทรศัพท์มือถือ EXODUS ถูกออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ต Web 3.0 นาย Chen อธิบาย เขาต้องการให้มือถือ EXODUS เป็นมือถือที่มีการโหลด dapps ลงเครื่องมากที่สุด ส่วน Opera นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่เป้าหมายนี้ได้
“เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของเว็บรูปแบบใหม่ การให้บริการ Decentralized เป็นอะไรที่ท้าทายมากในยุคปัจจุบันซึ่งทาง HTC และ Opera ได้ทำการตัดสินใจครั้งใหญ่และเป็นครั้งสำคัญที่จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง”
ด้านความปลอดภัย
ด้านการรักษาความปลอดภัยคริปโตเคอร์เรนซีของผู้ใช้งาน โทรศัพท์มือถือได้มีพื้นที่ปิดกั้นเอาไว้หรือที่เราเรียกว่า “trusted execution environment” โดย trusted environment ที่เราพูดถึงนี้มิใช่ cold storage เพราะผู้ใช้งานของเรายังสามารถเชื่อมต่อวอลเล็ทกับอินเตอร์เน็ตได้อยู่ แต่ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์จะไม่สามารถเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับวอลเล็ทได้เป็นการปกป้องผู้ใช้งานจากการกระทำที่เป็นอันตราย เช่น การแฮ็ก เป็นต้น
นอกจากนี้หากผู้ใช้งานลืม private keys ผู้ใช้งานสามารถที่จะทำการ recover ผ่านทางระบบ HTC’s social key recovery ได้ ในขั้นตอนการตั้งค่า social key recovery บนมือถือ ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกเบอร์โทรศัพท์ผู้อื่นเพื่อให้เป็นเบอร์นั้นเป็นผู้รับ private key ของเครื่องผู้ใช้งานได้ ดังนั้นหากโทรศัพท์หาย ผู้ใช้งานก็จะได้รับ key ผ่านทางเบอร์ที่ผู้ใช้งานได้ตั้งค่าไว้ในตอนแรก
“ผมคิดว่าโซลูชั่น social key recovery เป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมากกรณีที่โทรศัพท์ของคุณหาย คุณจะทำอย่างไร”
“ปัญหาเรื่องโทรศัพท์มือถือหายเป็นปัญหาที่ใหญ่ ถ้าคุณทำโทรศัพท์หรือ private keys หาย แล้วผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร? ทางเราจึงได้เกิดแนวคิดแยก keys ออกมาโดยทางเราจะไม่สามารถเข้าถึง keys ของลูกค้าได้หรือเก็บ keys ของลูกค้าไว้ในระบบ ซึ่งนี่เป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมาก” นาย Chen กล่าว
การแข่งขันที่หฤโหด
นาย Chen ตั้งเป้าหมายไว้ว่าโทรศัพท์มือถือ HTC EXODUS จะมียอดจำหน่ายกว่า 1 ล้านเครื่องภายในปี 2019 (แต่ในรายงานปัจจุบันเผยมือถือ HTC มียอดจำหน่ายกว่า 0.98 ล้านเครื่องในปี 2017 ส่วนในปี 2018 ไม่ได้มีรายงานออกมา)
การที่มือถือ HTC EXODUS เปิดให้ซื้อขายด้วยเงิน Fiat เพิ่มเติมหลังจากมีการตรวจสอบจากสังคมคริปโต ซึ่งทางบริษัทได้ประกาศมือถือ EXODUS ออกมาในช่วง CoinDesk’s Consensus 2018 ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
ดูเหมือนว่าทางบริษัทกำลังลงสนามแข่งขันที่ค่อนข้างหินอยู่ไม่น้อยเพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางบริษัทซัมซุงเพิ่งจะประกาศเปิดตัว Galaxy S10 ที่รองรับ Blockchain Keys storage โดยจะเจาะกลุ่มลูกค้าไปที่ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงมาตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตาม S10 จะมีราคาแพงขึ้นอีกเยอะมาก ซึ่งตอนนี้ราคาของเครื่องโมเดลอยู่ที่ 899.99 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วน S10E ราคาอยู่ที่ 749.99 ดอลลาร์สหรัฐ แพงกว่า EXODUS อยู่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเปรียบเทียบระบบ back up กรณีที่ลูกค้าทำมือถือหายหรือลืม private key ระหว่าง Samsung กับ HTC แล้ว ทาง HTC จะมีระบบ distributed key recovery system เนื่องจากทางบริษัทจะไม่ทำการเก็บ private key ของลูกค้าไว้กับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท แต่สำหรับ Samsung นั้น ลูกค้าจะสามารถ back up Key ผ่านทาง Find My Mobile ได้เลย ซึ่งก็ค่อนข้างมีความ Centralized มากกว่า
นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัท Start Up ด้าน Blockchain อื่น ๆ เช่น Sirin Labs ก็ผลิตมือถือของตนเอง “Finney” ที่วางขายที่ราคา 999 ดอลลาร์สหรัฐ และบริษัท Electroneum ก็ได้ประกาศเปิดตัวโทรศัพท์มือถือของตัน “M1 smartphone” ในขณะที่ประชุม Mobile World Congress เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจาะกลุ่มไปที่ประเทศกำลังพัฒนาโดยจะจัดจำหน่ายมือถือที่ราคา 80 ดอลลาร์สหรัฐ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น