ดูเหมือนว่าท่ามกลางราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อไม่นานนี้ มันจะดึงดูดให้บริษัทด้านหลักทรัพย์รายใหญ่ ๆ ในไทยเริ่มให้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขายังได้แนะนำให้นักลงทุนหันมาเรียนรู้เกี่ยวกันสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ก่อนหน้านี้สยามบล็อกเชนได้รายงานแล้วว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท Bitkub Capital Group Holdings จำกัด หรือ ‘Bitkub’ ได้ออกมาประกาศจับมือกับบริษัทหลักทรัพย์ Trinity จำกัด เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ Cryptocurrency แก่ตัวแทนจากบริษัทหลักทรัพย์ทรีนิตี้ “และเชิญชวนนักลงทุนหันมาลงทุนใน Cryptocurrency เพื่อปลดล็อคขีดจำกัดออกมาจากสินทรัพย์เดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นพันธบัตรหรือทองคำที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดมาสู่สินทรัพย์แห่งอนาคตที่เป็นระบบเปิดอย่างแท้จริง”
โดยล่าสุดนั้นทาง บริษัทหลักทรัพย์ Trinity ได้ออกมาแนะนำให้นักลงทุนของพวกเขาซื้อ Bitcoin เพื่อเก็งกำไรอีกครั้ง เนื่องจากบริษัทเชื่อว่า Bitcoin นั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นและมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าได้ดีกว่า เมื่อเทียบสินทรัพย์ตัวอื่น ๆ
Trinity แนะนำนักลงทุนซื้อ Bitcoin เพื่อเก็งกำไร
พวกเขากล่าวว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ “ที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น และสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นนั่นก็ง่ายที่จะทำการลงทุน” และนอกเหนือจาก Bitcoin แล้วพวกเขายังได้มองหาสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่น ๆ ที่คิดว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอีกด้วย
ภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะเป็นสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าการระดมทุนในอนาคต และนักลงทุนควรจับตามองสินทรัพย์ดังกล่าวนี้อย่างใกล้ชิด โดยเขากล่าวว่า
“การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งที่บริษัทเฝ้าดูมาสักพักหนึ่งแล้ว โดยทรีนิตี้เชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะเป็นโฉมใหม่ของการระดมทุน และผมเชื่อว่าตลาดนี้มันจะโตได้อีกมากในอนาคต มันจะเป็น Generetion ยุคถัดไปของการระดมทุน”
ดร. วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการของบริษัทหลักทรัพย์ทรีนิตี้ได้ออกมาแนะนำให้นักลงทุนหน้าใหม่หันมาเก็บสะสม Bitcoin ในลักษณะที่เหมือนกับการออมเงิน โดยเขากล่าวว่า :
“ผมคิดว่า Bitcoin นั้นเป็นสินทรัพย์รูปแบบใหม่ ซึ่งปกติแล้วสำหรับคนที่ไม่เคยรู้จัก Bitcoin มาก่อน ผมมักจะแนะนำให้พวกเขาลองซื้อ Bitcoin เก็บสะสม เก็บไว้อย่างละนิดอย่างละหน่อย สะสมไปเรื่อย ๆ เช่นสะสมไม่เกิน 5% ของเงินออมเรา เช่นเดียวกับทองคำ ผมเชื่อว่าทั้ง 2 สินทรัพย์นี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว แต่เนื่องด้วย Bitcoin นั้นมีความผันผวนสูง ผมจึงเชื่อว่าการลงทุนแบบเก็บสะสมนั่นจะเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่า เพราะถ้าหากราคามันแกว่งมากเราก็ไม่เดือดร้อน”
นอกจากนี้แล้ว ดร. วิศิษฐ์ ยังได้แนะนำกลยุทธ์การซื้อ Bitcoin ของบริษัทให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ ด้วยว่า
“ด้วยการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิคที่เราถนัด สิ่งนี้จะช่วยให้เราวิเคราะห์ได้ว่าควรรับราคา Bitcoin ที่เท่าไหร่ รับแถวไหน อย่างเช่น ราคาที่ผมสู้คือราคาที่ Bitcoin ร่วงถอยลงมา ซึ่งราคาของมันมีโอกาสร่วงไปถึง $ 8,000 ไหม มีแน่นอนครับ แต่เราคิดว่าโอกาสในการที่ราคาจะลงไปถึง $ 8,000 นั้นน้อยลง เราน่าจะตั้งรับไว้ที่ $ 10,000 – 12,000 อะไรทำนองนั้น ซึ่งกลยุทธ์นี้จะสอดคล้องกับการลงทุนแบบเก็บสะสมที่ผมพูดไปข้างต้น ยกตัวอย่างเช่น เดือนนี้คุณไปซื้อนิดหนึ่ง เดือนหน้าซื้ออีกนิดหนึ่ง เดือนหน้าราคาอาจอยู่ที่ $ 9,000 คุณก็แค่ซื้อเพิ่มเข้าไปและรอให้ราคาวิ่งกลับขึ้นไปที่เดิม คุณก็จะได้กำไร”
อย่างไรก็ตามนาย ชาญชัย กงทองลักษณ์ ยอมรับว่าในช่วงแรก Feedback ของลูกค้าเกี่ยวกับการแนะนำสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin นั้นยังคงไม่ดีนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่นั้นจะเป็นนักลงทุนรุ่นเก่า ซึ่งทำให้อาจยังไม่เปิดใจยอมรับสินทรัพย์ประเภทใหม่นี้มากนัก โดยเขากล่าว่า :
“ผมต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ฐานลูกค้าของเราไม่ใช่ฐานลูกค้าวัยรุ่น เพราะฉะนั้นต้องเวลาในการทำความเข้าใจกับพวกเขาซักระยะหนึ่ง แต่เราจะบอกกับพวกเขาเสมอว่า พวกเราคิดว่ามันเป็นประเภทสินทรัพย์ที่มีโอกาสทำกำไรได้ดีจากที่เราทำการบ้านมา อันที่สองเราก็ไม่อยากให้พวกเขาลงทุนใน Bitcoin เป็นหลัก เราแนะนำให้พวกเขาลงทุนในสัดส่วนที่ไม่ได้เยอะมากนัก โดยส่วนตัวผมคิดว่าหลังจากที่เราใช้เวลาไปพอสมควรในการแนะนำ Bitcoin ให้กับลูกค้าของเรา ประกอบกับช่วงที่ราคา Bitcoin เริ่มพุ่งสูงขึ้น มีคนเริ่มพูดถึง Bitcoin มากขึ้น ลูกค้าของเราก็เริ่มเชื่อถือสินทรัพย์ประเภทนี้มากขึ้นตามไปด้วย”
สาเหตุที่ทำไมเขาถึงได้แนะนำให้ลงทุนใน Bitcoin
สำหรับคำถามที่ว่าทำไม Trinity ถึงได้แนะนำให้นักลงทุนหันมาซื้อ Bitcoin เพื่อเก็งกำไร นาย ชาญชัย ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า :
“เนื่องจาก Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ดังนั้นการแนะนำให้นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากกว่า หากแนะนำให้พวกเขาซื้อ Bitcoin นอกจากนั้นแล้ว Bitcoin ยังมีการปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีความโดดเด่นในเรื่องของอุปทานที่มีอยู่อย่างจำกัด และยังได้รับการยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ ซึ่งหากพิจารณาในเรื่องเหล่านี้แล้ว มูลค่าของมันก็จะต้องเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน”
ในทางด้านของ ดร. วิศิษฐ์ เขามองว่า Bitcoin นั้นเป็นสินทรัพย์ที่ควรค่าแก่การเก็งกำไรในระยะยาวและมันมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าสินทรัพย์ตัวอื่น ๆ นับตั้งแต่ช่วงต้นปีผ่านมา โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า :
“Bitcoin นั้นเป็นสินทรัพย์มีโอกาสเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในปัจจุบัน ยกอต่างเช่น หุ้นของไทยนั้นมีโมเดลการสร้างรายได้มาจากท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการฟื้นตัวของมันเลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากมากกว่า ต่างจาก Bitcoin ที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับปัจจัยเหล่านั้น”
อย่างไรดีดูเหมือนว่าตอนนี้ Bitcoin จะเป็นเพียงแค่สินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ทางบริษัท Trinity เล็งไว้ให้เป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุนเท่านั้นในฐานะสินทรัพย์ที่มีโอกาสทำกำไรได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนาย ชาญชัย ก็ต้องยอมรับว่า Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะกลายเป็นอนาคตของโลกการเงิน ซึ่งเป็นไปได้ว่าในไม่ช้า พวกเขาอาจแนะนำลูกค้าของพวกเขาหันมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลัก หากบริษัทวิเคราะห์แล้วว่ามันมีโอกาสในการทำกำไรได้มากกว่าสินทรัพย์ตัวอื่น ๆ ทั้งหมด