สำหรับการซื้อขายและแลกเปลี่ยนคริปโตแล้ว หนึ่งในสิ่งที่นักลงทุนต้องศึกษาก่อนเลยคือแพลตฟอร์มที่ใช้แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสำหรับแพลตฟอร์มที่รองรับการซื้อขายอนุพันธ์คริปโตนั้นยังมีจำนวนไม่มากซึ่งทางสำนักข่าว Coinsutra นั้นได้รวบรวมมาให้เราได้ศึกษากันแล้ว
Binance
ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา Binance ได้ครองอันดับ 1 ในการซื้อขายแบบ Spot trading, rolled out margin และ อนุพันธ์ Futures อีกทั้ง Binance ยังรองรับการซื้อขายกว่าสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมหาศาลอีกด้วย
นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำโดยในการซื้อขายแต่ละครั้งจะมีค่าธรรมเนียมเพียง 0.04% ของมูลค่าการซื้อขาย และการถอนเหรียญหรือเงินจะมีค่าธรรมเนียมเพียง 0.0005 BTC เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ต้องใช้การยืนยันตัวตน 2 ขั้น (two-factor authentication) ด้วย โดยข้อเสียของแพลตฟอร์มนี้คือไม่รองรับผู้ใช้งานจากสหรัฐอเมริกาเพียงเท่านั้น
Bitmex
Bitmex เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งนักลงทุนหลาย ๆ คนที่ได้ใช้งานก็กล่าวได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่จะใช้ในการแลกซื้อขายอนุพันธ์คริปโต โดยแพลตฟอร์มนี้ได้เปิดให้มีการซื้อขายอนุพันธ์ future รายสัปดาห์, รายวัน และ swaps อีกด้วย
โดยแม้ว่าแพลตฟอร์มจะเปิดให้ทำการซื้อขายโดยใช้สกุลเงิน Bitcoin เท่านั้นแต่กระนั้นก็ยังยอมรับที่จะให้ซื้อขาย ETH, ADA, BCH, LTC, XRP และ Tron ด้วยหน่วยเงิน BTC ได้
อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำโดยผู้ขายจะเสียค่าธรรมเนียม 0.075% ในขณะที่ผู้ซื้อจะเสียค่าธรรมเนียม 0.025% เท่านั้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นเพื่อมีความต้องการซื้อที่สูงบนแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ยังมีบริการให้คำแนะนำลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และรัสเซีย
Deribit
Deribit เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มซื้อขายที่มีการให้บริการซื้อขายทั้งในแบบของ Future และ Option ซึ่งได้เปิดตัวขึ้นเมื่อปี 2016 และเปิดบริการผู้ใช้งานกว่า 100 ประเทศ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนสกุลเงินจากระบบ แต่ก็รองรับเพียงแค่การซื้อขาย Future และ Option ของ Bitcoin เท่านั้น
สำหรับในการซื้อขายทั่วไปนั้น ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งาน Technical Indicators มาช่วยในการตัดสินใจในการซื้อขายทั่วไปบนแพลตฟอร์ม Deribit อีกด้วย โดยผู้ใช้งานยังสามารถติดตั้งแอป Deribit บน Andriod/iOS เพื่อทำการเทรดได้ทุกเมื่ออีกด้วย
อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำโดยผู้ขายจะเสียค่าธรรมเนียม 0.075% ในขณะที่ผู้ซื้อจะเสียค่าธรรมเนียม 0.025% เท่านั้น ในขณะที่ทุกการฝากถอนจะใช้ได้เพียงสกุลเงิน BTC เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในภาษาอังกฤษ เกาหลี สเปน รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน และตุรกีอีกด้วย
Bybit
แม้ Bybit จะอยู่ในตลาดคริปโตได้ไม่นานเทียบเท่าแพลตฟอร์มตัวอื่น ๆ แต่ก็รองรับการซื้อขายสกุลเงิน BTC, ETH, XRP และ EOS ด้วย USDT โดยการฝากสกุลเงินเข้าบัญชีจะทำได้เฉพาะสกุลเงินที่กล่าวมาเท่านั้น
แต่ในขณะเดียวกัน Bybit ก็ได้กล่าวว่าแพลตฟอร์มของพวกเขานั้นสามารถรองรับปริมาณการซื้อขายได้มากถึง 100,000 คำสั่งซื้อต่อวินาที และยังสามารถเข้าซื้อขายผ่านทางเว็บไซต์หรือติดตั้งแอปฯ เพื่อทำการซื้อขายผ่านมือถือก็ได้เช่นกัน
โดยผู้ลงทุนจะสามารถฝากเงินเข้าบัญชีในปริมาณเท่าใดก็ได้ แต่เมื่อต้องการถอนเงินจะต้องถอนโดยมีปริมาณขึ้นต่ำตามที่ได้ระบุไว้บนเว็บไซต์ดังนี้
Bitcoin: 0.0005BTC
Ethereum: 0.01ETH
Ripple: 0.25XRP
EOS: 0.1EOS
OKex
OKex นั้นมีให้บริการการซื้อขายหลากหลายรูปแบบ ทั้ง swaps, futures และ margin โดยรองรับสกุลเงินดิจิทัลไว้ถึง 9 สกุลด้วยกัน
ซึ่ง Okex ยังยอมรับการซื้อขายอนุพันธ์ด้วยสกุลเงินเดียวกันอีกด้วย อาทิเช่น ต้องการซื้ออนุพันธ์ futures ของ Bitcoin ก็สามารถใช้สกุลเงิน Bitcoin ในการซื้อขายได้ ซึ่งทาง Okex ได้รองรับระบบนี้กับสกุลเงินทั้ง 9 สกุลอีกด้วย
นอกจานี้ยังมีระบบที่จะให้ความรู้ผู้ต้องการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในรูปแบบของอนุพันธ์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถลงทุนได้อย่างไม่ต้องกลัวจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
และยังมีกระดานซื้อขายแบบ Customer to Customer (C2C) ซึ่งจะทำให้สามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทั้ง 9 กับสกุลเงิน Fiat 6 รายการที่ OKex รองรับได้ โดยทางเว็บไซต์ได้รองรับสกุล Euro, Pound Sterling ของประเทศอังกฤษ, Yuan ของประเทศจีน, Rubles ของรัสเซีย และ Dong ของเวียดนาม
ที่มา: coinsutra
คำเตือน: การซื้อขายสัญญา Future ของเหรียญ cryptocurrency มีความเสี่ยงสูง และมีโอกาสล้างพอร์ทโฟลิโอของคุณได้หากไม่ระมัดระวังในการลงทุน และทาง Siam Blockchain จะไม่รับผิดชอบหากมีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น