นาย Chamath Palihapitiya นักลงทุนและ CEO ของบริษัท Social Capital ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg ว่า Bitcoin กำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับระบบการเงินโดยการแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบการเงินดั้งเดิม
“ให้ผมบอกคุณมั้ยว่าอะไรที่ทำให้ Bitcoin สำคัญมาก เพราะมันกำลังแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบโครงสร้างทางการเงินแบบดั้งเดิม โดยสามารถดูได้จากปริมาณของเงิน M2 เป็นตัวอย่างได้ และเมื่อถึงเวลานั้นเราจะต้องตั้งคำถามว่า ‘หาก Bitcoin มาแทนที่ทองคำในฐานะทรัพย์สินจัดเก็บมูลค่าแล้ว อะไรจะมาแทนที่ ดอลลาร์สหรัฐฯ’
คำตอบสำหรับคำถามนั้นคือ Stablecoin
แล้วมันหมายความว่าอย่างไรกัน หากให้อธิบายอย่างง่าย ๆ ก็คือในอนาคตทุก ๆ บริษัทจะค่อย ๆ แทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยโทเคนของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแม้จะฟังดูแปลกแต่มันกำลังสร้างระบบโครงสร้างทางการเงินที่ไม่เคยมีขึ้นมาก่อน
ทั้งการซื้อขาย การบริหารจัดการทรัพย์สินต่าง ๆ การธนาคาร การทำธุรกรรม และการชำระเงินทุกอย่างกำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป แม้จะไม่สามารถเห็นได้ชัดในสหรัฐฯ เพราะระบบทางการเงินที่แข็งแรง แต่เมื่อมองออกไปยังประเทศที่กำลังพัฒนาจะพบว่ามันง่ายมากที่จะทำการควบคุมค่าเงินของประเทศนั้น ๆ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ Bitcoin จะเป็นอนาคตของการเงิน
Bitcoin ก็เหมือนกับนกขมิ้นถูกจับให้อยู่ในเหมืองนั่นแหละ แทบจะเป็นระบบจำลอง ที่ไม่เปิดเผยตัวตน และเราสามารถถกเถียงกันได้ว่าดีหรือไม่ และในด้านการเงินแล้ว เป็นสิ่งที่ดีที่เราควรจะทำความเข้าใจมัน”
ท้ายที่สุดนี้เขายังได้ทำนายราคา Bitcoin ไว้อย่างไม่ซีเรียส ด้วยว่า
“ผมกับเพื่อนได้มีการคุยเรื่อยเปื่อยถึงเรื่องไร้สาระต่าง ๆ จนถึงเรื่องที่มีความตึงเครียดสูงอย่างภาวะ COVID-19 และ เพื่อนของผมก็กล่าวกับเพื่อน ๆ ผมว่า ‘ถ้า Bitcoin ไปถึงระดับราคา $100,000 จริง ๆ นะ ผมจะซื้อ Goldman Sachs แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Chamathman Sachs ให้ดูเลย’ ซึ่งมันก็เป็นแค่มุกตลกล่ะนะ เพียงแค่ว่าคนบางคนไม่เข้าใจผมเอาเสียเลย”
ที่มา: Dailyhodl