<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตลาดเหรียญคริปโตอาจมีมูลค่าถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 5 ปี กล่าวโดยนักลงทุนแห่ง Wall Street

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักลงทุนมหาเศรษฐีพันล้านนาม Michael Novogratz หรืออดีตผู้จัดการ hedge fund ผู้ที่มีความชื่นชอบใน Bitcoin ได้อ้างว่าตลาดเหรียญ cryptocurrency ทั้งหมดอาจจะมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ โดยเขาได้กล่าวพูดที่งาน CB Insights Future of Fintech ในเมืองนิวยอร์คเมื่อไม่นานมานี้

โดยการที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้นั้น บริษัทแต่ละบริษัทจะต้องมีการพัฒนาหลักการทางธุรกิจที่ทำให้ทางผู้ออกกฎหมายเป็นที่ยอมรับ เนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่ผ่านมานั้นได้ทำการล็อคเครื่องคอมพิวเตอร์ของทั้งรัฐบาลและส่วนบุคคล และเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin มูลค่าถึง 300 ดอลลาร์ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของ Bitcoin ต้องตกอยู่ในตำแหน่งที่คนมองเป็นลบ

Bitcoin ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดูดีกว่านี้

นาย Michael ผู้ที่ในอดีตเคยบริหารและจัดการกลยุทธ์การลงทุนให้บริษัท Fortress Invesment Group LLC และเคยลงทุนใน Bitcoin เมื่อปี 2013 นั้น ถือเป็นผู้สนับสนุน Bitcoin จาก Wall Street ที่หายากที่สุด อ้างอิงจาก Bloomberg เขาได้เรียกร้องให้บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ cryptocurrency จ่ายภาษี เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีใครในวงการนี้เสียภาษีเลย เขายังบอกว่าผู้พัฒนาเหรียญคริปโตนั้นมักจะมีจุดประสงค์ที่ดีเสมอ จึงไว้ใจพวกเขาได้

ผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์

การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งล่าสุดนั้นส่งผลกับราคา Bitcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาที่ราคาตกไปถึง 2,339.66 ดอลลาร์ อีกทั้งยังทำให้ผู้ผลิตชิปสำหรับอุปกรณ์ การขุด Bitcoin ถึงกับต้องกลัว แต่อย่างไรก็ตาม Bitcoin นั้นได้มีมูลค่าเพิ่มมาถึง 140% ในปีนี้ รวมถึงเหรียญ Ether ที่ราคาพุ่งจาก 8 ดอลลาร์เป็น 240 ดอลลาร์

“เหรียญคริปโตยังต้องฝ่าด่านอะไรอีกเยอะ” กล่าวโดยนาย Michael “การโจมตีทางไซเบอร์นั้นได้สร้างความเสียหายต่อชื่อของเหรียญคริปโตเป็นวงกว้าง พร้อมกับทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความมั่นคงของราคาที่มันพุ่งขึ้นมาสูงขนาดนี้ว่าจะอยู่ได้นานสักแค่ไหน รวมไปถึงการแก้ปัญหาเรื่อง scaling” เขากล่าว

การหันมาลงทุน Bitcoin ของนาย Michael

นาย Michael กล่าวว่าเขาได้กำไรจากการลงทุนซื้อขาย Bitcoin และเหรียญ Ether รวมถึงการมีสินทรัพย์เป็นเหรียญคริปโตโดยคิดเป็น 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของเขา และสินทรัพย์ที่เขาไปซื้อมาได้ในช่วงเปิดขาย ICO โดยเขายังเสริมว่าเขาอยากให้ราคาลงไปถึง 2,000 ดอลลาร์เพื่อที่เขาจะได้ทำการช้อนซื้อเพิ่ม รวมไปถึงอยากให้ราคาของ Ether ตกลงไปถึงระหว่าง 200-150 ดอลลาร์ด้วยเช่นกัน

Bitcoin นั้นอาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการลงทุนที่เหมือนกับทอง เขากล่าว ในขณะที่ Ethereum อาจจะช่วยสร้างรากฐานให้กับบริษัทอย่าง Facebook และ Google ได้ในอนาคต เขายังคาดเดาว่าในอนาคตการโอนเงินเพื่อซื้อสินทรัพย์ต่างๆอาจจะถูกยกเลิก และถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี Blockchain