<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ความขัดแย้งของนักพัฒนา: หรือ Ethereum จะมี Hard Fork เร็ว ๆ นี้ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Ethereum มีสิทธิที่จะมีการแยก Chain เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้

เหตุเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมของกลุ่มนักพัฒนาหลักของ Ethereum ภายในงานมีการพูดคุยถึงการนำโค้ด EIP 999 ไปใช้ เพื่อที่กู้คืนเงินมูลค่ากว่า 264 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกำลังเป็นที่โต้เถียงกันในเวลานี้

คนเหล่านั้นสูญเสียเงินจาก Bug ของระบบ Smart Contracts ซึ่งแน่นอนว่ามันสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การนำโค้ด EIP 999 ไปใช่นั้นส่งผลทำให้เกิดข้อขัดแย้งภายในอย่างมาก เนื่องจากมันจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อความปลอดภัย และสร้างความแตกแยกในระบบ

นาย Alex Van de Sande ผู้พัฒนา Mist Browser ของ Ethereum กล่าวว่า:

“มันชัดเจนอยู่แล้วว่าการนำ EIP 999 ไปใช้นั้นจะทำให้เกิดการ Hard Fork ขึ้น และหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเกิดการแยกของ Chain ใหม่ขึ้นมา”

หนึ่งในผู้ที่สนับสนุน EIP 999 คือ ดร. Gawin Wood ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และผู้ก่อตั้ง Parity Technologies ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่เงินถูก Freeze ไว้

Parity เป็นซอฟแวร์ที่นักพัฒนา Ethereum นิยมใช้มากที่สุดเป็นอันดับสอง ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 จากทั้งหมดเลยทีเดียว

ภายในงานประชุม ตัวแทนของบริษัท Parity ได้แก่ นาย Afri Scheoedon และนาย Jutta Steiner ผู้รวมก่อตั้งบริษัท ได้ชักชวนนักพัฒนาที่ใช้โปรแกรมของพวกเขา ให้เห็นด้วยกับการใช้ EIP 999

แต่ทว่า นาย Péter Szilágyi นักพัฒนาหลักของซอฟแวร์ Ethereum นาม Geth ซึ่งปัจจุบันเป็นซอฟแวร์ที่นักพัฒนานิยมใช้มากที่สุดกลับไม่เห็นด้วย

“เรากำลังพูดถึงเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งตอนนี้เรากำลังสร้างสงครามภายในกันอยู่ ผมไม่คิดว่ามันจะมีข้อสรุปเกิดขึ้นได้”

Geth VS Parity

ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันของสองกลุ่มดังกล่าว นั้นอาจสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่คิดให้กับเครือข่าย Ethereum

Geth และ Parity นั้นทำงานคล้ายกันคือ เป็นโปรแกรมที่แปลงภาษา Smart Contracts ที่ยุ่งยากให้ใช้งานง่ายสำหรับนักพัฒนาทั่วไป ต่างกันแค่ทั้งสองซอฟแวร์นั้นใช้ภาษาคอมพิวเตอร์คนละภาษา

มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่ทั้งสองฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ในเครือข่าย Ethereum ยกตัวอย่างเช่น หากมีฝ่ายใดฝ่ายนึงใช้ EIP 999 และอีกฝ่ายไม่ใช้ Blockchain ของ Ethereum จะถูกแบ่งออกเป็น 2 Chain กล่าวโดยง่ายคือจะมี Ethereum เกิดขึ้นมาใหม่อีกอัน ทำให้พวกเรามี Ethereum 2 อันนั่นเอง

นอกจากนี้ถ้าเกิดเครือข่าย Ethereum สูญเสีย Parity ไปล่ะก็พวกเขาจะเสียกำลังขุดในเครือข่ายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำหน้าที่การยืนยันธุรกรรมในเครือข่าย

นาย Van de Sande กล่าวถึงแรงจูงใจของ Parity ที่ต้องการ Fork เพื่อนำเงินของพวกเขากลับมาว่า :

“Parity เป็นทีมผู้พัฒนาที่ทรงคุณค่า และพวกเขาก็มีแรงจูงใจที่จะสนับสนุนการ Fork ”

ข้อเสียของการ Fork

ถึงแม้ว่าแรงจูงใจคือการนำเงินกลับมา แต่ว่าการนำ EIP 999 มาใช้นั้นจะก่อให้กดผลเสียอย่างมากเช่นกัน

นาย Van de Sande กล่าวใน Blog Post ของเขาว่า มันจะมีผลกระทบไปถึงธุรกรรม,โทเค็น และธุรกิจจำนวนมากที่ทำงานอยู่บน Blockchain ของ Ethereum

และแน่นอนว่าการ Fork ดังกล่าว จะทำให้ Smart Contracts อันเดียวกันนั้น มีอยู่ในสอง Chain ในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น

“ถ้าเกิดคุณครอบครองแมวออนไลน์ที่หายากอยู่ มันก็จะมีฝาแฝดปีศาจของมันเกิดขึ้นในโลกคู่ขนานด้วย”

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสอยู่ที่ Parity จะไม่ทำการ Fork เนื่องจาก เวลาเกิดการ Fork นั้น ชุมชนจะถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ซึ่งจะทำให้มูลค่า Blockchain ของ Ethereum นั้นด้อยค่าลง และส่งผลให้เงินที่นำกลับมาได้นั้นมีมูลค่าที่ลดลงตามไปด้วย

ในตอนนี้ นาย Van de Sande กำลังหาวิธีการที่จะคืนเงินดังกล่าวให้กับ Parity อยู่ แต่เขายังไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนี้มากนัก

หากสุดท้ายแล้วเหตุการณ์ Fork เกิดขึ้นจริง ๆ เราจะได้เห็นปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ที่จะส่งผลกระทบไปทั่ววงการคริปโตเลยทีเดียว เนื่องจากมีคริปโตเป็นจำนวนมากทำงานอยู่บน Blockchain ของ Ethereum แต่จะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไรนั้น เราต้องเฝ้าดูเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิดในเวลาต่อไป

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น