<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“Bitcoin จะตายในระยะยาว” กล่าวโดยมหาเศรษฐีหนุ่มจากการลงทุนในคริปโตนาม Erik Finman

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หนึ่งในมหาเศรษฐีหนุ่มด้วยคริปโตที่มีอายุน้อยที่สุดอย่างนาย Erik Finman ได้มีมุมมองด้าน Bitcoin ไปในด้านลบแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาได้ลงทุนในคริปโตจากเงินที่คุณย่าให้เงินเขามาจนทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีอายุน้อยสุดในปี 2011

เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2017 มูลค่า Bitcoin ของนาย Erik น่าจะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่มีข้อบ่งชี้ใด ๆ ว่าเขาถืออยู่กี่ BTC

นาย Erik Finman กล่าว: Bitcoin และ Litecoin กำลังตาย Ether, BCH และ Zcash จะรอด

นาย Finman เคยออกข่าวในเดือนมกราคมเมื่อต้นปีที่ผ่านมาโดยเขาได้เล่าถึงการลงทุนในคริปโตของเขาตั้งแต่ปี 2011 ตอนนั้นเขาอายุเพียง 12 ปี โดยเงินที่ได้มานั้นมาจากคุณย่าของเขานั่นเอง ด้วยเงินจากคุณย่าจำนวน 1,000 ดอลลาร์สามารถกลายเป็น 4 ล้านดอลลาร์ได้ในปี 2017

ถึงแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ แต่เขาก็กล่าวว่า Bitcoin กำลังประสบปัญหาแล้ว:

“Bitcoin ตายแล้ว มันบาดเจ็บสาหัสมากไป ผมไม่คิดว่ามันจะอยู่รอด … ผมว่ามันอาจมีตลาดกระทิงอยู่บ้างในสักที่หนึ่ง แต่ในระยะยาวผมว่านะ มันตายแน่นอน”

จริง ๆ แล้ว Bitcoin เริ่มที่ล่มสลายตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 ตั้งแต่มีการ Hard Fork เป็น Bitcoin Cash เพราะว่ามีการโต้เถียงในชุมชนถึงขนาด Block ใน Bitcoin นั่นเอง หลังจากนั้นนาย Roger Ver. และ Craig Wright ก็ออกมาสนับสนุน Bitcoin Cash อย่างเต็มตัว

ไม่น่าเชื่อว่าวัยรุ่นคนนี้จะหันมาเชื่อใน Bitcoin Cash มากขึ้นและยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Bitcoin เขากล่าวว่าเทคโนโลยีบน Bitcoin Cash มันดีมากแต่ก็ถูกโฆษณาในด้านที่ไม่ดีอยู่ตลอด

ส่วนเหรียญอื่น ๆ ที่นาย Finman เชื่อว่ามีโอกาสรอดสูงก็คือ Ethereum และ Zcash ในขณะที่เขากล่าวว่า Litecoin ตายแล้ว

“Litecoin ได้ตายไประยะเวลาหนึ่งแล้ว” เขากล่าว “มันเหมือนกับว่าเมื่อดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า มันจะมีช่วงระยะเวลาประมาณแปดนาทีก่อนจะหายไปซึ่ง Litecoin อยู่ในนาทีที่เจ็ดแล้ว”

นาย Erik Finman เคยกล่าวชื่นชม Bitcoin

ก่อนหน้านี้นาย Erik Finman ได้ออกมายืนยันอยู่หลายครั้งว่า Bitcoin มันดีแถมยังไม่สนใจในตัว Ethereum อีกด้วย โดยก่อนหน้านั้นมหาเศรษฐีคนนี้ยังเคยได้ถ้าต่อยนาย Jamie Dimon ที่เขาเคยกล่าวหาว่า Bitcoin เป็นสิ่งที่ฉ้อฉล

ที่มา: Cointelegraph

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น