โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนมักจะมองว่า Cryptocurrency นั้นเป็นเครื่องมือในการลงทุน เพื่อการทำกำไรจนอาจลืมไปว่า จริง ๆ แล้วมันถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือหรือตัวกลางในการแลกเปลี่ยนที่มีความทันสมัย และมันก็ไม่ได้แค่ใช้กันเพียงกลุ่มเล็ก ๆ แล้ว เพราะว่า หากลองสังเกต Google บริษัทด้านอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่จะเห็นได้ว่า เครื่องมือต่าง ๆ ของพวกเขานั้น เริ่มที่จะทยอยค่อย ๆ เพิ่ม Cryptocurrency สกุลหลัก ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระบบของพวกเขามากขึ้นแล้ว รวมทั้งยังช่วยตีแผ่ข้อมูลของสกุลเงินเหล่านั้นให้เข้าถึงง่ายขึ้นอีกด้วย
Google Search
ในช่วงแรก ๆ เลย Google ได้ทำการเพิ่มข้อมูลต่าง ๆ ของ Cryptocurrency มากขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราค้นหาคำว่า ‘xrp’ ก็จะมีรูปไอคอนของมัน และเหรียญสกุลหลัก ๆ อีกมากมายแสดงผลขึ้นมาให้เห็น และในช่อง Top Stories (เรื่องน่าสนใจ) ก็ยังมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับ XRP ที่ Google ไปทำการหามาให้อีกด้วย ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ได้มีแค่ XRP เท่านั้นแต่ยังครอบคลุมไปยัง Bitcoin (BTC), Litecoin (LTC), IOTA, Cardano (ADA), Stellar (XLM), Dogecoin (DOGE) และ Ethereum (ETH) อีกด้วย
แต่ในปัจจุบัน จะไม่มีการโชว์ไอคอนของเหรียญอื่น ๆ อีกต่อไปปแล้ว เมื่อค้นหาชื่อของคริปโตสกุลหลัก ๆ แต่จะมีข้อมูลของเหรียญนั้นเลยแสดงขึ้นมาแทนเช่น เมื่อหาคำว่า ‘xrp’ ก็จะมีการบอกข้อมูลในแถบด้านขวาขึ้นมาว่า เป็นเหรียญที่เกี่ยวกับอะไร, ถูกพัฒนาโดยใคร และใช้ภาษาโปรแกรมอะไรเขียนนั่นเอง
เครื่องมือการแปลงค่าเงินของ Google
ผู้ใช้งานบางคนอาจจะสังเกตเห็นว่า เมื่อเราค้นหา Keyword ที่เกี่ยวกับการแปลงค่าเงินเช่น ‘usd to baht’ Google จะทำการโชว์แถบสำหรับการแปลงค่าเงินแบบง่าย ๆ ขึ้นมาให้เฉพาะเลย ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีแต่การแปลงค่าเงินของสกุลเงิน Fiat ทั่วไป แต่ปัจจุบัน พวกเขาได้เพิ่ม Cryptocurrency เข้าไปในแถบนั้นถึง 4 สกุลแล้ว ได้แก่ Bitcoin (BTC), Bitcoin Cash (BCH), Ether (ETH) และ Litecoin (LTC)
Google Keyboard Tool
อีกหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า Google เริ่มยอมรับคริปโตนั้น สังเกตได้จากคีย์บอร์ดบน iOS ที่มีการเพิ่มสัญลักษณ์ของ Bitcoin เข้าไปด้วย เผื่อในกรณีที่ผู้ใช้งานต้องการตัวย่อ เวลาจะพิมพ์ถึงจำนวน Bitcoin
Google BigQuery และ Blockchain
นอกเหนือจากข้อมูลของเว็บไซต์ทั่วไปแล้ว Google นั้นได้ใช้ Big Data และ Algorithm ในการค้นหาในการดึงข้อมูลมาจาก Blockchain สาธารณะหลัก ๆ เช่น Bitcoin และ Ethereum เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาเผยแพร่สู่สาธารณะด้วย ข้อมูลดังกล่าวสามารถนำไปใช้ได้มากมายหลายทางเช่น การตัดสินใจทางธุรกิจ เป็นต้น
ในกรณีของ Ethereum นั้น พวกเขาได้ทำการเชื่อมต่อ Blockchain ของ Ethereum เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่กำลังรัน Parity บน Google Cloud จากนั้นทำการดึงข้อมูลเกี่ยวกับ Blockchain ของ Ethereum ออกมาในทุก ๆ วัน ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นรวมไปถึงการทำธุรกรรมของ Smart Contract ด้วย
อ้างอิงจาก The Block นาย Allen Day นักพัฒนาอาวุโสที่ Google Cloud ได้เผยว่า ปัจจุบันเขากำลังทำโปรเจกต์นาม Blockchain ETL (Extract, Transform, Load) โดยโปรเจกต์นี้มีความตั้งใจที่จะทำให้เกิดการค้นหาข้อมูลภายในทั้ง Blockchain นั้นได้ ซึ่งนอกจากการดึงข้อมูลจาก Bitcoin และ Ethereum แล้ว พวกเขาก็กำลังดึงข้อมูลจาก Blockchain ของ Litecoin (LTC), Zcash (ZEC), Dash (DASH), Bitcoin Cash (BCH), Ethereum Classic (ETC) และ Dogecoin (DOGE) เข้าไปยัง BigQuery ของ Google อีกด้วย
Google นั้นเป็น Search Engine ระดับโลกที่มีผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลต่าง ๆ มากกว่า 3.5 พันล้านครั้งต่อวัน และ 1.2 ล้านล้านครั้งต่อปี รวมทั้งยังมีเครื่องมืออีกมากมายที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจของคนจำนวนมาก การที่พวกเขาเริ่มแสดงสัญญาณว่า ค่อย ๆ ยอมรับ Cryptocurrency นั้นอาจส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของ Cryptocurrency มีมากขึ้นก็เป็นได้ และพวกเขาคงมองเห็นอะไรบางอย่างว่า สกุลเงินเหล่านั้นมีศักยภาพและคู่ควรพอกับที่พวกเขาจะลงแรง หรือลงทุนสร้างช่องทางเพิ่มให้กับมัน เพราะมีผู้ใช้งานจำนวนมากพอที่กำลังใช้ Cryptocurrency มากขึ้นนั่นเอง
การที่ Google นั้นค่อย ๆ ทยอยยอมรับ Cryptocurrency อาจมีผลมาจากบุคลากรในองค์กรสนใจในสกุลเงินเหล่านั้นก็เป็นได้ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมา CEO ของ Google ได้ออกมาเผยว่า ลูกชายของเขานั้นเป็นนักขุดเหรียญ Ethereum และอดีต CEO ของ Google ก็เคยออกมาแสดงความเห็นเช่นกันว่า “Ethereum นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพสูงมาก”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น