<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุน FOIN เริ่มตัดพ้อ หลังราคาเหรียญร่วงกว่า 99% กลุ่มต่อต้านแชร์ลูกโซ่แนะนำเข้าฟ้อง DSI

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ภายหลังจากที่ราคาของเหรียญแชร์ลูกโซ่ระดับโลก FOIN นั้นร่วงลงมากว่า 99% จนกลายเป็นกระแสและข่าวใหญ่ ๆ ในทั้งวงการคริปโตไทย และวงการแชร์ลูกโซ่นั้น ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีผู้คนที่เดือดร้อน และออกแสดงความเห็นเชิงตัดพ้อ และแสดงความไม่พอใจแล้ว

โดยอ้างอิงจากผู้ใช้งานไลน์สแควร์ที่ไม่เปิดเผยชื่อในห้อง ‘ค้นหาความจริง และ Foin คือ แชร์ลูกโซ่’ นั้น เขาได้มีการโพสต์ภาพของบทสนทนาของนักเทรดเหรียญ FOIN ในกลุ่มไลน์ที่มีชื่อว่า Trade FOIN ที่เริ่มมีการเปลี่ยนโทนคุยกันจากด้านบวกมาเป็นด้านลบแล้ว

“ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ได้เงินคืนแล้วละครับ ตอนนี้บอกตรงๆอายทุกคนในชีวิตประจำวันมากๆ”

หนึ่งในผู้ใช้งานที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามนั้นถึงกับตั้งคำถามที่ไม่น่าจะมีใครตอบได้ว่าบริษัทที่พวกเขารักนั้นจะช่วยพยุงราคาไหม

ก่อนหน้านี้ได้มีผู้ใช้งานในกลุ่มไลน์ต่อต้าน FOIN ดังกล่าวแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI แล้ว และก็ได้มีการไปแจ้งความแล้วหนึ่งรอบเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามที่ทางสยามบล็อกเชนเคยได้รายงานไปลแล้ว ซึ่งในขณะนั้นทาง DSI ก็ได้รับคดีดังกล่าวไปดูแลแล้วด้วย

เมื่อเพจดังต่าง ๆ ในไทยนั้นเริ่มตื่นตัวกับเหรียญดังกล่าวแล้ว พวกเขาเริ่มมีการแนะนำให้ไปร้องเรียนกับหน่วยงานตำรวจกันมากขึ้น ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าอีกไม่นานคดีดังกล่าวคงจะได้รับการแถลงจาก DSI อย่างแน่นอน

เมื่อวานนี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่าราคาของเหรียญ FOIN นั้นได้ร่วงอย่างรุนแรงภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที โดยได้ร่วงลงกว่า 99% จากราคา 93,000 บาทลงไปเหลือแค่ 96 บาท และภายหลังจากนั้นไม่นาน เหรียญดังกล่าวก็ถูกนำออกจากกระดานซื้อขายคริปโตที่มีโวลลุ่ม FOIN มากที่สุดอย่าง P2Pb2b ในเวลาต่อมา โดยไม่มีใครทราบสาเหตุ

โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของเหรียญดังกล่าวนั้นอยู่ที่ 468 บาท อ้างอิงจาก Coingecko

เคสของ FOIN นั้นดูเหมือนว่าจะเคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งนั่นก็คือ Bitconnect หรือเหรียญแชร์ลูกโซ่ที่มีโมเดลคล้าย ๆ กัน และเคยถูกลิสต์ขึ้นกระดานซื้อขาย โดยในขณะนั้นเมื่อช่วงเดือนมกราคมปี 2018 ที่ผ่านมา ราคาของเหรียญดังกล่าวนั้นได้ร่วงลงกว่า 90% ส่งผลทำให้นักลงทุนที่ลงทุนไปในเหรียญดังกล่าวนั้นขาดทุนอย่างย่อยยับ จนทำให้รัฐบาลสหรัฐฯนั้นต้องออกมาลงดาบบริษัท Bitconnect ในภายหลัง

เราได้เห็นบทเรียนของความโลภ และความกลัวในธุรกิจแชร์ลูกโซ่คริปโตมาแล้วครั้งหนึ่ง และดูเหมือนว่าตราบใดที่ยังมีผู้หลอกลวง และผู้ที่หลงเชื่อโดยไม่ศึกษาและไตร่ตรองหาข้อมูลให้ดีก่อน เราก็คงจะได้เห็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกต่อไปเรื่อย ๆ

หากคุณเป็นคนที่กำลังลงทุนในเหรียญคริปโตตัวใดตัวหนึ่งอยู่ และหากมีเพื่อนออกมาเตือนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ทางเราขอแนะนำให้ลองหาคำตอบดูว่าเป็นเพราะอะไรพวกเขาถึงออกมาเตือน ไม่แน่ มันอาจจะช่วยทำให้คุณไม่ต้องเสียทรัพย์สินไปในอนาคตก็ได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น