เมื่อวานนี้เราได้เห็นการ snapshot เครือข่าย Blockchain ของเหรียญ XRP เพื่อทำการแจกเหรียญ Spark Token ให้กับผู้ที่ถือเหรียญ XRP แต่หลาย ๆ คนก็ยังคงสงสัยว่าทำไมยังไม่ได้เหรียญ Spark Token? ต้องทำอย่างไรต่อ? แล้วสามารถโอนเหรียญ XRP ออกจาก Wallet เพื่อไปเทขายได้เลยหรือไม่? ทางสยามบล็อกเชนมีคำตอบ
การ Snapshot เสร็จสิ้นลงแล้ว
เมื่อวานนี้ทางเราได้ทำการรายงานไปแล้วว่าเมื่อราว ๆ 7 โมงเช้าของวันที่ 12 ธันวาคม ได้มีการทำการ snapshot เครือข่าย Blockchain ของเหรียญ XRP เกิดขึ้น ส่งผลทำให้ผู้ที่ถือเหรียญ XRP ไว้ใน wallet ที่รองรับการ airdrop ของ Flare Network นั้น จะได้รับเหรียญ Spark Token แบบฟรี ๆ
โดยอ้างอิงจาก Twitter ของทาง Flare Network นั้น การ snapshot มีขึ้นที่ XRP Ledger Index เบอร์ 60155580
นั่นหมายความว่าหากคุณเคยถือเหรียญ XRP ไว้ใน wallet ที่รองรับการ airdrop ก่อน 7 โมงเช้าของวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา คุณก็จะได้รับเหรียญ Spark Token แบบฟรี ๆ ในอนาคต และภายหลังจากนี้ คุณสามารถที่จะโอนเหรียญออกไปที่ wallet อื่นต่อได้ หรือนำไปขายต่อได้ ก็จะยังได้รับเหรียญ Spark token อยู่ เพราะว่าได้มีการทำ snapshot บนเครือข่ายไว้แล้วนั่นเอง
แต่การ snapshot นั้นเป็นเพียงแค่หนึ่งในแผนการ airdrop แจกเหรียญเท่านั้น และการแจกเหรียญจริง ๆ ยังไม่เริ่มต้นขึ้น โดยสรุปคือขั้นตอนเมื่อวานนี้เป็นเพียงแค่การคัดเลือกคนที่จะได้รับเหรียญ Spark Token แค่นั้นเอง
แล้วจะได้รับเหรียญ Spark Token เมื่อไร
เมื่อขั้นตอนการทำ Snapshot จบลงแล้ว ทาง Flare นั้นเผยว่าพวกเขากำลังเตรียมการแจกเหรียญ Spark Token ที่อัตรา 1:1 ของเหรียญ XRP ที่คุณเคยถือไว้ก่อนการ snapshot นั่นหมายความว่าหากคุณมีอยู่ 20 XRP คุณก็จะได้รับ 20 Spark Token นั่นเอง หากอ้างอิงจากทาง Flare
หากอ้างอิงจากเว็บไซต์หลักของทาง Flare นั้น พวกเขากล่าวว่าจะมีเหรียญ Spark Token ที่จะถูกสร้างออกมาทั้งหมดที่ 4.5 หมื่นล้านเหรียญ และจะเริ่มมีการแจกเหรียญดังกล่าวให้กับผู้ถือ XRP เมื่อเครือข่าย Flare Network นั้นถูกพัฒนาเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการ
ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าเครือข่ายดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับเหรียญ Spark token ภายใน 6 เดือนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ทาง Flare Network นั้นไม่ได้มีการออกมาประกาศวันเปิดตัวเครือข่ายอย่างเป็นทางการที่แน่ชัด ดังนั้นคำว่าภายใน 6 เดือนนั้นอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนใดก็ได้ของ 6 เดือนนี้ ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องคอยติดตามความคืบหน้าเรื่อย ๆ
แล้วราคาจะเป็นเท่าไร
อีกสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนกำลังตั้งคำถามก็คือ หากพวกเขาได้รับเหรียญดังกล่าวมาแล้ว มูลค่าและราคาของ Spark Token นั้นจะเป็นเท่าไรกันแน่?
หากลองดูที่ปัจจัยพื้นฐานของ Flare Network แล้วจะพบว่าเครือข่ายดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้ผู้คนสามารถสร้างระบบ decentralized finance ( DeFi) บนเครือข่ายของ XRP Ledger ได้เหมือนกับที่ Ethereum มี
ดังนั้น คำถามที่ว่าเหรียญดังกล่าวจะมีมูลค่าที่มากหรือน้อยขนาดไหน หากคาดการณ์เป็นตัวเลขนั้นอาจจะยากสักเล็กน้อย เนื่องจากว่าไม่มีใครสามารถรู้อนาคตได้ แต่หากลองดูปัจจัยพื้นฐานที่กล่าวไว้ข้างต้น สิ่งที่นักเทรดควรพิจารณานั้นมีอยู่ไม่กี่ข้อ และจะได้ตัดสินใจได้ว่าหากได้เหรียญมาแล้วจะนำไปเทขายทันที หรือถือต่อเพื่อรอดูการเติบโตของมัน
- กระแสและอนาคตของ DeFi – เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้ตลาด Decentralized Finance นั้นมีความเติบโตอย่างมาก และเทรนด์ดังกล่าวยังคงมีทิศทางที่ชี้ขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นหากการมาของ DeFi นั้นเป็นของจริง มีมูลค่าที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นแค่กระแสแบบมาแล้วดับแบบ ICO ในปีหน้านี้เราอาจจะได้เห็นทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้นของตลาด DeFi ก็เป็นได้ เนื่องจากว่าปัจจุบันแพลทฟอร์ม DeFi ไม่ได้มีเพียงแค่บน Ethereum แล้ว เนื่องจากนักพัฒนาเหรียญหลาย ๆ ตัวในตลาดได้เล็งเห็นความนิยมในส่วนนี้ และก็ต้องการที่จะกระโดดเข้ามาในเรือลำนี้บ้าง
- เทรนด์ของตลาดคริปโตในปีหน้า – เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญในตลาดคริปโตอย่างรุนแรงจากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ได้ทำราคาจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลบนบางเว็บเทรดไปแล้ว และนักวิเคราะห์ต่างก็กำลังคาดหวังว่าปีหน้านี้จะเป็นขาขึ้นของตลาดคริปโตอย่างรุนแรงเหมือนกับของปี 2017 และก็ตามที่เราได้เห็นกันในหลาย ๆ ครั้ง เมื่อไรก็ตามที่ราคาของเหรียญ BTC พุ่งขึ้น ราคาของเหรียญ Altcoin อื่น ๆ ในตลาดนั้นก็มีแนวโน้มที่จะวิ่งขึ้นตามเหรียญราชาดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน และนั่นก็รวมถึง Spark Token อีกด้วย
- อนาคตของ Ripple – ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่ XRP แต่เป็น Ripple ทั้งบริษัท ด้วยการที่ Flare Network นั้นเปรียบเสมือนเป็นแค่ตัวส่วนเสริมของเครือข่าย XRP Ledger หากไม่มีตัวหลัก ตัวเสริมก็ทำงานไม่ได้ และหากอนาคตของ Ripple ดูมืดมน นั่นก็จะส่งผลกระทบมาสู่ราคาของเหรียญ XRP และ Spark Token ด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบัน Ripple กำลังประสบปัญหาด้านกฎหมายในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา อีกทั้งยังต้องมาเจอการเทขายเหรียญ XRP ของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอย่างนาย Jed McCaleb ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูแย่ลงเรื่อย ๆ ในสายตาของนักลงทุนรายย่อย ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรจับตาดูด้วยเช่นกัน
นี่คือปัจจัยหลัก ๆ ที่นักเทรดไม่ควรมองข้าม และใช้นำมาตัดสินใจในการถือ หรือขายเหรียญ Spark Token ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า และแม้ว่าราคาของ XRP จะร่วงลงอย่างหนักมากในตอนนี้หลังจากการ snapshot แต่หลาย ๆ คนก็มองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว และนักเทรดก็ควรที่จะมองให้ยาวด้วย แทนที่จะมานั่งเครียดในระยะสั้น