<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เปรียบเทียบเว็บเทรด Bitcoin ในไทย เว็บไหนน่าใช้บ้าง ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กระแสคริปโตในประเทศไทยกำลังเริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่ราคา Bitcoin นั้นเริ่มต้นปี 2021 มาด้วยการพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่แตะระดับ 42,000 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 1,200,000 บาท จนทำให้นักเทรดหน้าใหม่แห่ให้ความสนใจใน Bitcoin กันอย่างคับคั่ง

อย่างไรก็ตามในขณะที่กระแสคริปโตกำลังเป็นกระแสนิยมมาแรง นักเทรดหน้าใหม่หลายคนจึงเริ่มลังเลแล้วว่าพวกเขาควรจะเลือกเว็บกระดานเทรดคริปโตในไทยตัวไหนดี เนื่องจากปัจจุบันมีเว็บเทรดมากมายที่ได้รับอนุญาตจากทางก.ล.ตให้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) อย่างเป็นทางการ 

โดยในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจะมาแนะนำเว็บเทรดในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ Bitkub, Satang Pro, Huobi และ Zipmex พร้อมเปรียบเทียบด้วยว่าแต่ละเว็บเทรดนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร

วอลุ่มการซื้อขาย

วอลุ่มการซื้อขายบนเว็บเทรดคริปโตถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่นักเทรดต้องการซื้อหรือขาย ซึ่งถ้าหากเว็บเทรดมีวอลุ่มการซื้ออยู่ในระดับสูง การซื้อหรือขายก็จะมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องซื้อ 1 BTC แล้วมีวอลุ่มการซื้อขายบนเว็บเทรดน้อย ออเดอร์การซื้อขายของเราก็จะไม่ถูกจับคู่กับออเดอร์ของคนอื่น ๆ หรืออาจจะต้องตั้งออเดอร์รอนานหลายวัน ในทางตรงกันข้ามหากวอลุ่มบนเว็บเทรดเยอะ เราก็จะสามารถซื้อขายได้แบบทันทีทันใด ดังนั้นตอนช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่น ตอนที่ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็ว เราก็สามารถขายได้ทันเวลานั่นเอง

จากการเฝ้าติดตามข้อมูลเว็บกระดานเทรดคริปโตในไทยในช่วงวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาพบว่า วอลุ่มการซื้อขายของเว็บเทรด Bitkub นั้นนำมาเป็นอันดับหนึ่ง 1 ด้วยวอลุ่มการซื้อขายแตะ 2,082 ล้านบาท ตามมาด้วย Zipmex ที่มีวอลุ่มการซื้อขายที่ 149 ล้านบาท และ Satang Pro อยู่ที่ 37.5 ล้านบาท ส่วนทางด้าน Huobi thailand นั้นยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายและการถอนเงิน

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายบนเว็บเทรดเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับนักเทรดคริปโต เพราะหากเว็บเทรดคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายมากเกินไป นักเทรดก็อาจเสี่ยงที่จะเกิดการขาดทุนขึ้นได้หากมีการเทรดบ่อยครั้ง ดังนั้นแทนที่นักเทรดจะได้กำไรพวกเขากลับต้องขาดทุนแทนนั่นเอง ซึ่งมันถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง

จากการเฝ้าติดตามข้อมูลเว็บกระดานเทรดคริปโตในไทยในช่วงวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาพบว่า ค่าธรรมเนียมการซื้อขายบนเว็บเทรด Bitkub และ Huobi นั้นถือได้ว่าแพงที่สุดในช่วงเวลานี้ ซึ่งมีการคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.25% ต่อการซื้อหรือขาย 1 ครั้ง ในขณะที่ Satang Pro มีการคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่เพียง 0.12-0.20% และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ Zipmex เว็บเทรดน้องใหม่ที่เพิ่งได้นานกลับไม่มีค่าธรรมเนียมเลยแม้แต่บาทเดียว (อาจมีเก็บเพิ่มเติมในอนาคต)

ส่วนค่าธรรมในการถอนเงินของแต่ละเว็บเทรดนั้นพบว่า ในช่วงวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา เว็บเทรด Bitkub มีค่าธรรมเนียมในการถอนอยู่ที่ 20 บาท (ขึ้นอยู่กับสกุลเงิน จำนวนเงินและธนาคาร โดยมีค่าธรรมเนียมสูงสุดอยู่ที่ 200 บาท) เช่นเดียวกับ Zipmex ที่มีค่าถอนอยู่ที่ 20 บาท แต่เป็นเรื่องน่าแปลกใจอย่างมากที่ Satangpro มีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 18 บาทและ Huobi มีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 15 บาท

จำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับ

จำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่เว็บเทรดรองรับก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนักเทรดบางคนนั้นมีความชอบในสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่เหมือนกันเช่น บางคนอาจชอบ Litecoin บางคนอาจชอบเหรียญ Band Protocol แต่ถ้าหากเว็บเทรดไม่มีเหรียญเหล่านี้รองรับ พวกเขาก็อาจต้องย้ายไปใช้บริการในเว็บเทรดอื่น ๆ แทนนั่นเอง 

โดยจากติดตามข้อมูลเว็บกระดานเทรดคริปโตในไทยอย่างคร่าว ๆ ในช่วงวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาพบว่า Bitkub นั้นมีจำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับมากที่สุดอยู่ที่ 38 เหรียญ ตามมาด้วย SatangPro 30 เหรียญ, Huobi 15 เหรียญและ Zipmex 9 เหรียญ

ชื่อเว็บเทรดจำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับค่าธรรมเนียมในการซื้อขายค่าธรรมเนียมในการถอนวอลลุ่มการซื้อขายในวันที่ 16 ม.ค.
Bitkub380.25%20-200 บาท2,082 ล้านบาท
Satang Pro300.12-0.20%18 บาท37.5 ล้านบาท
Huobi150.25%15 บาท
Zipmex9ไม่มีค่าธรรมเนียม20 บาท149 ล้านบาท

สรุป

ดูเหมือนว่าขณะนี้การแข่งขันในวงการเว็บเทรด Bitcoin ของประเทศไทยนั้น จะเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงตลาดคริปโตกำลังคึกคัก โดยแต่ละเว็บเทรดนั้นต่างก็พากันงัดของดีของเด็ดของตัวเองออกมาใช้กดดันคู่แข่งและแย่งชิงฐานลูกค้ามาไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งการแข่งขันที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อตัวของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับลดค่าธรรมเนียม รูปแบบแพลตฟอร์มการใช้งาน วอลุ่มการซื้อขาย สิ่งนี้ล้วนแต่ก่อให้เกิดผลประโยชน์กับผู้ใช้ทั้งสิ้น ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันไปว่าสงครามเว็บเทรดคริปโตในไทยจะจบลงอย่างไรและใครจะเป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้