<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สาเหตุที่ประเทศต่าง ๆ กำลังพยายามปรับตัวให้เข้ากับ Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบ peer-to-peer ที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมผ่านหน่วยดิจิทัล โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2009 เครือข่าย Bitcoin ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่คริปโตตัวแรก ก่อนที่จะเริ่มมีเหรียญ Altcoin ถือกำเนิดขึ้นตามมามากมาย และถูกใช้เป็นทางเลือกแทนสกุลเงิน Fiat ของรัฐบาลเช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯและเงินยูโร รวมถึงสกุลเงินโลหะ เช่น ทองคำและเงิน

การใช้สกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกเพิ่มขึ้น 880% ในปีที่แล้ว โดยเฉพาะในเวียดนาม อินเดีย ปากีสถาน และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ดัชนีการยอมรับคริปโตในทั่วโลกปี 2021 ถูกขนานนามว่าเป็น “ภูมิศาสตร์ของสกุลเงินดิจิทัล” เปรียบเทียบกับการใช้สกุลเงินดิจิทัลของประเทศต่าง ๆ โดยอิงตามพารามิเตอร์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การโอนมูลค่าบนบล็อกเชน มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับบนเครือข่าย และวอลุ่มการแลกเปลี่ยนแบบ peer-to-peer

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเหล่านี้กล่าว หลายคนใช้การแลกเปลี่ยน cryptocurrency แบบ peer-to-peer เป็นช่องทางหลักในการก้าวเข้าสู่ cryptocurrency อยู่เสมอเพราะพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงกระดานแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ได้ อันเป็นผลมาจากค่าเงินที่อ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญในประเทศที่กำลังพัฒนา ดังนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะซื้อ cryptocurrency บนแพลตฟอร์มเพียร์ทูเพียร์เพื่อปกป้องมูลค่าการลงทุนของพวกเขา

ธุรกรรมระหว่างประเทศยังเป็นที่นิยมในประเทศเหล่านี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินส่วนบุคคลหรือกรณีการใช้งานทางด้านธุรกิจ เช่น การซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อนำเข้าและขาย สกุลเงินประจำชาติที่อาจถูกจำกัดสำหรับผู้อพยพออกนอกประเทศ 

BITCOIN ถูกใช้ในประเทศอื่นอย่างไร ?

นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2009 บิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่ตามมานั้นเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการโต้เถียงอย่างรุนแรง ในขณะที่ bitcoin ถูกโจมตีอย่างกว้างขวางเนื่องจากความผันผวนของราคา การใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และวอลุ่มพลังงานที่จำเป็นในด้านการขุด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาต่างมองมันด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่ ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจที่กำลังโหมกระหน่ำ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีบุคคลจำนวนมากเริ่มหันมาใช้ bitcoin ในด้านการลงทุน ปัญหาเหล่านี้จึงได้เกิดขึ้น ท่ามกลางข้อจำกัดต่าง ๆ  มากมายเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน ทำให้ bitcoin นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ  แต่ถึงอย่างนั้นรัฐบาลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำให้การใช้ bitcoin นั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่เนื่องด้วยจุดยืนของ Bitcoin และสินค้าโภคภัณฑ์นั้นแตกต่างกัน  พวกเขาจึงต้องมีการกำหนดกฎระเบียบที่แตกต่างกัน

บางประเทศได้กำหนดข้อจำกัดเกี่ยวกับวิธีการใช้ bitcoin โดยธนาคารได้สั่งห้ามไม่ให้ลูกค้าของตนทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิตอล ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ได้พยายามออกกฎหมายควบคุมการใช้งาน bitcoin และ cryptocurrencies อย่างชัดเจน โดยมีค่าปรับที่เข้มงวดกับผู้ใดก็ตามที่ทำธุรกรรมในสกุลเงินดิจิทัล ประเทศเหล่านี้ล้วนมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับ Bitcoin แต่อย่างไรดูเหมือนว่าในอนาคตมันอาจมีปัจจัยหลายประการที่ทำให้พวกเขาต้องหามาพึ่งพาทางเลือกอื่น ๆ เช่น bitcoin ต่อไป