สหภาพยุโรป (EU) ได้สั่งแบนการให้บริการ cryptocurrency แก่รัสเซียซึ่งเป็นมาตรการคว่าบาตรในการใช้ตอบโต้ที่รัสเซียได้ทำการบุกรุกยูเครน
โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้มีการห้ามการฝากเงินไปยัง crypto wallet รวมถึงการใช้เหรียญ crypto ที่เป้นที่ยิมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, BNB, XRP, ADA, SOL และ LUNA ซึ่งก็เป็นไปตามที่ Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรปได้เตือนว่า cryptocurrency นั้นถือเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อความพยายามในการคว่าบาตร
เนื่องด้วยราคาของ Bitcoin, Ethereum, BNB, XRP, ADA,SOL, LUNA และ cryptocurrency เหรียญอื่น ๆ ได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มันมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับการใช้งานในทางที่ผิดกฎหมายแม้ว่าจะมีความผันผวนสูงมากก็ตาม
มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวเป็นมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 5 ที่บังคับใช้กับรัสเซียซึ่งประกอบไปด้วยการดำเนินการกับธนาคาร, สกุลเงิน และกองทุนและจะ “มีส่วนสนับสนุนเพิ่มเติมในการเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียและทำให้ความสามารถในการจัดหาเงินทุนสำหรับใช้ในการบุกรุกยูเครนลดลง”
ในเดือนมีนาคม Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เตือน Bitcoin และ cryptocurrency อื่น ๆ อาจจะถูกใช้เพื่อหลบหลีกจากการคว่ำบาตรโดยเขาเรียก Bitcoin และเว็บเทรด crypto ที่ให้บริการแก่ผู้ที่ถูกคว่ำบาตรว่าเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” ในการพยายามหลบลีกจากการคว่าบาตร นั่นจึงเป็นเหตุให้เว็บเทรด crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง Coinbase และ Binance ต้องรีบมีการปรับแนวทางเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการคว่าบาตรด้วยเช่นกัน
ยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้มีความพยายามที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อบริษัทของรัฐและธนาคารของรัสเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยอำนาจใหม่เมื่อเดือนที่แล้วในการที่จะยึด Bitcoin และ cryptocurrency เหรียญอื่น ๆ
ปริมาณการซื้อขายระหว่าง Bitcoin และเงินรูเบิลรัสเซียนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนหลังจากการที่รัสเซียได้บุกรุกยูเครนและมีการคว่ำบาตรที่ตามมาในเดือนกุมภาพันธ์รัสเซียถูกไล่ออกจาก SWIFT เครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศหลักของโลก